“จุรินทร์”ปัดข่าว “มาร์ค”ลาออกปชป.ร่วมรบ.พปชร. ชี้ยังมีเวลาร่วมไม่ร่วมรบ. เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า จะแบ่งงานให้กับรองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาค และเลขาธิการพรรค รวมถึงการมอบหมายงานด้านอื่นๆในหลายส่วน ส่วนการพูดถึงการร่วมรัฐบาลหรือไม่รอให้ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรคก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้นัดประชุมส.ส.ในช่วงบ่ายหลังจากนั้นจะชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบ ไม่มีความลับ             เมื่อถามว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เคยระบุว่า มีคำตอบในใจแล้วว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล กับพลังประชารัฐ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกับนายเฉลิมชัย หรือพูดว่าจะไปเป็นอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีเวลา ซึ่งขอเวลาให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทัพภายในพรรคให้จบก่อน อย่างไรก็ตามในวันที่ 24 พ.ค.จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และในวันที่ 25พ.ค.เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในวันดังกล่าวก็จะยังไม่มีความชัดเจนในการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคแต่อย่างใด ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ ขออย่าห่วง เมื่อถึงเวลาก็จะต้องพิจารณา               ส่วนปัจจัยที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องรอที่ประชุมพูดคุยกันว่าจะมีปัจจัยใดบ้าง สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์พรรค ว่าต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อะไรที่เคยพูดกับประชาชนไว้ก็จะต้องนำมาพิจารณา               เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ถูกเสนอชื่อ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค หรือนายบัญญัติ  ล้วนมีประสบการณ์ ทำหน้าที่หลายหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งหมดยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือหารืออะไรทั้งสิ้น  เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค อาจจะลาออกจากการเป็นส.ส. หากพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเองยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ส่วนการโหวตเลือกนายกฯพรรคจะมีการกำหนดหรือไม่ว่าจะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือเปิดให้ส.ส.โหวตอิสระหรือไม่นั้น  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  เมื่อถึงเวลาพรรคจะมีมติ และทุกคนต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามมติของพรรค ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่หัวหน้าพรรค ก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น