"อนุทิน" ยังกั๊กร่วมรัฐบาลฝ่ายไหน​ แย้มให้ส.ส.ช่วยโหวต​จะไปทางไหนดี​ ลั่น​ ยอมเป็นฝ่ายค้าน​ หากพรรคร่วมไม่เอากัญชา​ กำชับส.ส.รับใช้ประชาชน​ 24​ ชม.​ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่โรงแรมโมเดน่า บาย เฟร์เซอร์ จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกในวันที่ 24 พ.ค. และจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรตามกระบวนการในวันที่ 25 พ.ค. นายอนุทินให้สัมภาษ​ณ์ก่อนการประชุมว่า​ การประชุมสัมมนาวันนี้​ จะเน้นเรื่องวิชาการ​ เพราะส.ส.ทั้ง​ 51​ คน​ มีหลายคนที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามา​เป็นส.ส.ครั้งแรก​ จึงต้องปฐมนิเทศ​ให้รับทราบถึงข้อปฏิบัติต่างๆ​ รวมถึงข้อควรทำ​ ข้อไม่ควรทำ​ การวางตน​ และสิทธิของการเป็นผู้แทนราษฎร​ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนตน​ก็ต้องเข้าร่วมการปฐมนิเทศ​ด้วย เพราะถือเป็นส.ส.ป้ายแดง​ นอกจากนี้​ ยังมีการชี้แจงวิธีการทำตามกฎระเบียบ​ เช่น​ การชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน​และหนี้สิน​ให้คณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ​(ป.ป.ช.)​ตามกฎหมาย​ โดยได้รับความร่วมมือจากป.ป.ช.​ จัดส่งวิทยากรมาอบรมและบรรยายให้เกิดความเข้าใจ​ ทั้งนี้​ เมื่อ​ 2 สัปดาห์​ที่ผ่านมา​ ตนได้บอกให้ส.ส. ลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็น​จากชาวบ้าน​ เกี่ยวกับทิศทางของพรรคว่าต้องการให้เดินไปทางไหน​ โดยจะนำมาพูดคุยหารือในวันนี้ด้วย​ จากนั้น​ จะมีการหารือ​ว่าพรรคต้องการมีบทบาทในสภาอย่างไร​ และใครมีความเชี่ยวชาญด้านใดบ้าง​ เพื่อจะมอบหมายให้ไปอยู่ประจำคณะกรรมาธิการ​ต่างๆ​ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ​ ริเริ่ม​ และให้ความคิดเห็นในทุกมิติ​ เมื่อถามว่า​ หากรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ที่ไปฟังเสียงชาวบ้านมาแล้ว​ จะสามารถเคาะบทสรุปท่าทีของพรรคในวันนี้ได้หรือไม่​ นายอนุทิน​กล่าวว่า​ ก็ต้องรับฟังก่อน​ คนอื่นเขารอถึงวันที่​ 23-24​ พฤษภาคม​ ทำไมต้องมาเร่งตนด้วย​ เมื่อถามต่อว่า​ แต่หลายคนคาดหวังว่าพรรคภูมิใจ​ไทยจะมีอะไรคืบหน้า​ นายอนุทิน​กล่าวว่า​ สมมุติตนจะตัดสินใจ​หรือจะทำอะไร​ ก็เหมือนกับพรรคอื่นที่ต้องขอฉันทานุมัติ​จากส.ส.และกรรมการบริหารพรรคว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนของพรรคในการตัดสินใจเรื่องทิศทางทางการเมือง​ ที่ก็น่าจะเป็นตน​ ซึ่งอาจจะมีอะไรในใจแล้วก็ได้​ แต่ยังไม่จำเป็นต้องบอกตอนนี้​ เพราะคนอื่นก็เลื่อนเหมือนกัน​ เมื่อถามว่า​ พรรคภูมิใจ​ไทย​มีแนวโน้มจะเลื่อนเหมือนกันใช่หรือไม่​ นายอนุทิน​กล่าวว่า​ ไม่ใช่​ ไม่ได้เลื่อน​ แต่ถามว่า​วันนี้มีใครมาหาเราหรือยัง​ ก็ยังไม่มี​ อย่าลืมว่าพรรคภูมิใจ​ไทย​เป็นพรรคลำดับ​ที่ 5 ถามว่าพรรคลำดับ​ที่ 1 จัดรัฐบาลหรือยัง จัดได้หรือไม่​ ถ้าจัดไม่ได้​ พรรคลำดับ​ 2 จัดหรือไม่​ ซึ่งตอนนี้ตนดูจากข่าว ก็มีการบอกว่าพรรคภูมิใจ​ไทย​จะเป็นขั้วที่​ 3 กับ​พรรคประชาธิปัตย์​(ปชป.)​ แต่ตนยืนยันว่ายังไม่ได้คุยอะไรกันกับพรรคประชาธิปัตย์​ "ตอนนี้ต้องนิ่ง​ เพราะการนิ่งคือสิ่งที่ดีที่สุด​ ซึ่งต้องดูว่าความคิดเห็นของชาวบ้านเป็นอย่างไร​ เพราะผมจะต้องรับฟังจากส.ส.ทุกคน​ หรือผมอาจจะให้ส.ส.ทุกคนโหวตลับก็ได้​ ว่าอยากไปในทิศทางไหน​ เพราะนี่เป็นประชาธิปไตย​ เราต้องรับฟังทุกมิติ​ ไม่ต้องสนใจแรงกดดัน​ใดๆ​ เพราะพรรคจะไม่มีการชี้นำและโน้มน้าว​ วันนี้​ขอให้ทุกคนปล่อยอารมณ์มาเต็มที่ว่าจะเอาอย่างไร​ ซึ่งผลการโหวต​ ผมจะอ่านคนเดียว​ แล้วก็จะไปนั่งบริกรรมของผม​" นายอนุทิน​กล่าว​ เมื่อถามถึง​กรณีสวนดุสิตโพล​เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระบุอยากเห็น​รัฐบาลขั้วที่​ 3 นายอนุทินย้อนถามว่า​ โพลไหน​ เพราะโพลนี้ก็ด่าทางนี้​ โพลนู้นก็ด่าทางนู้น​ บอกไปทางนี้​ อีกฝั่งก็ด่า บอกไปทางนี้​ อีกฝั่งก็ด่า​ เพราะฉะนั้น​ ต้องประเมินให้ถูก​ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร​ เพราะพูดไว้ชัดเจนว่าบ้านเมืองเป็นใหญ่​ และประชาชนคือคนที่พรรคต้องคอยปกป้องและรักษาผลประโยชน์​ ตนบอกชัดเจนแล้วว่า​ ส.ส.500​ คนต้องนำส.ว.​ 250​ คน​ ดังนั้น​ ยืนยันว่า​รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีพรรคภูมิใจ​ไทย​แน่นอน​ เราต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเท่านั้น เมื่อถามว่า​ สื่อบางสำนัก​ได้จัดทำโผคณะรัฐมนตรี​(ครม.)​ ให้นายอนุทินเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทินยิ้มและกล่าวว่า​ ก็ดีเหมือนกัน​ ​เพราะตนเคยอยู่มา​ 2 สมัยแล้ว​ แต่ตอนนี้เรายังไม่ไปไกลถึงตรงนั้น​ สำหรับกระทรวง​สาธารณสุข​ คนอาจมองว่าคุณพ่อของตนเคยเป็นอดีตรัฐมนตรี​ว่าการ​มาก่อน​ อย่างไรก็ดี​ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงาน​ได้​ ไม่มีปัญหา​ หากได้เป็นจริงก็ถือเป็นเรื่องดี​ เนื่องจากนโยบาย​กัญชา​ จะได้ถูกผลักดันเป็นรูปธรรม​มากขึ้น​ แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล​ เพราะเรายังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย​ อย่างไรก็ตาม​ วันนี้คงจะได้รับฉันทานุมัติ​ ซึ่งตนก็ต้องนำไปคิดให้มาก​ เพราะเป็นเรื่องของบ้านเมือง​ จะมาทำอะไรตามอารมณ์​และความรู้สึกไม่ได้ ต้องปล่อยวาง​ ต้องเป็นกลางมากๆ​ เมื่อถามว่า​ นอกจากรอฟังความเห็นของประชาชนแล้ว​ ยังมีเงื่อนไขอื่นอีกหรือไม่ที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจ​ นายอนุทินกล่าวว่า​ ไม่มี​ เพราะเงื่อนไขเรามี​ 4 ข้อ​ ที่ประกาศตลอดเวลา​ คือ​ 1.เรื่องความจงรักภักดี​ 2.เรื่องความตั้งใจทำงาน​ ซึ่งต้องไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีความขัดแย้ง ต้องรักประชาชน​ และต้องรับทุกนโยบายของพรรคภูมิใจ​ไทย​ไปปฏิบัติ​เป็นรูปธรรม​ ดังนั้น​ หากจะไปคุยกับใครหรือฝ่ายไหน​ เราก็ต้องฟังเงื่อนไขของเขา และดูว่าเรารับได้หรือไม่​ ใครจะมาบอกให้เราเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธ​ารณสุข​ ก็ต้องฟังว่าเพราะอะไร​ และคนอื่นคิดว่าอย่างไร​ หรือถ้าเป็นฝ่ายค้านจะทำอย่างไร​ เงื่อนไขของเรา​ ท่านรับได้หรือไม่​ โดยเฉพาะเรื่องกัญชา​ หากไม่มีใครเอาด้วย​ เราก็จะเป็นฝ่ายค้าน​ ณ​ วินาทีนั้น จากนั้น นายอนุทิน กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนี่งว่า ขอย้ำว่าคำว่าผู้แทนของราษฎร ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้แทนของคนในพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น แต่เป็นผู้แทนของทุกคนไม่ว่าจะเลือกหรือไม่เลือกเรา ประชาชนทุกคนคือเจ้านายของเรา เวลาอยู่ในสภาจะอภิปรายจะต้องมีคำว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ อย่าปฏิบัติตนให้คำว่าผู้ทรงเกียรติไม่มีความหมาย การปฏิบัติตนทุกเรื่องต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เปิดเผย โปร่งใส ไม่มีวาระซ่อนเร้น นอกจากนี้ วันที่ 24 พ.ค.นี้ ที่จะมีรัฐพิธีเปิดรัฐ ขอให้ส.ส.ของพรรคมารวมตัวกันที่พรรค และเดินทางไปพร้อมกันโดยรถบัส เพราะตนต้องการเห็นส.ส.ของพรรค เดินไปไหนด้วยกัน เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน พร้อมกำชับว่า ทุกคนเป็นผู้แทนของราษฎร ต้องรู้จักหัดพูดแสดงความเห็น เพราะเราไม่ใช่แบบพวกมากลากไป ต้องมีความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะบางครั้งเส้นผมก็อาจบังภูเขา คำพูดบางคำอาจทำให้มีมาตรการใหม่ๆหรือความคิดใหม่เกิดขึ้น เราต้องเริ่มกันตั้งแต่วันแรกที่ทำหน้าที่ นอกจากนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยังได้บรรยายเรื่องบทบาทการทำหน้าที่ส.ส. รวมทั้งมีการเชิญวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาให้ความรู้เรื่องการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งประชุมเตรียมการตั้งคณะทำงานของกิจการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย