สาวใหญ่ ร้องสื่อ ถูกแก๊งเจ้าแม่ รุมกระทืบ บางตาย หน้าผับดัง คดีไม่คืบหอบคลิปหลักฐานถูกกระทืบจนสลบไปฟื้น รพ.ตร.ยันแจ้งข้อหาอริแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.62) ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณี มีหญิงสาว อายุ 31 ปี นำภาพหลักฐาน รวมถึงคลิปภาพเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 15 เม.ย.62 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.15 น. บริเวณด้านหน้าผับชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ต้องพักรักษาตัวนานเกือบ 10 วัน เนื่องจาก มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นหญิง รวมถึง สาวปะเภทสอง นับ 10 คน รุมทำร้ายสุดเหี้ยมไม่ยั้งมือ ทั้งเตะต่อย รุมกระทืบซ้ำ และใช้มือดึงผมโขกกับพื้น จนหมดสติ ก่อนมีคนมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลนครพนม โดยจากการตรวจสอบภายหลังทราบชื่อผู้เสียหาย คือ นางสาวภัณฑิรา ผมหอม อายุ 31 ปี ชาว ต.หนองเทา อ.ปลาปาก จ.นครพนม ภายหลังเกิดเหตุ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 เม.ย.62 ทางญาติผู้เสียหาย ได้ นำหลักฐาน เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม กับ พ.ต.ท.ธีรวุธ ดั่งเกษี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทาง นางสาวภัณฑิรา ผมหอม อายุ 31 ปี ระบุว่า หลังออกจากโรงพยาบาลนครพนม ได้มาติดตามการดำเนินคดี เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเป็นการรุมทำร้ายที่กระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ตนมีเพียงคนเดียว แต่คู่กรณีมากถึง 10 คน นอกจากนี้ ทางผู้เสียหายไม่มีความมั่นใจในการดำนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน ตั้งแต่ แจ้งความ คดียังไม่คืบหน้า และยังต้องดิ้นรนหาหลักฐานเองทุกอย่าง ทั้งที่มีการให้ข้อมูลตำรวจ เชื่อมไปยังตัวผู้กระทำผิด ที่สามารถยืนยันตัวตน นำไปสู่การดำเนินคดี จนสุดท้าย ได้มีญาติคู่กรณีพยายามมาเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยที่ สภ.เมืองนครพนม แต่ยังพยายามกดดันให้ยอมความทั้งที่ได้รับบาดเจ็บ หนำซ้ำยังให้ชายมาข่มขู่อ้างว่าเป็นคนมีสี นายทหารระดับนายพัน ซึ่งผู้เสียหายจึงไม่มีความมั่นใจในการดำนินคดีของตำรวจ จึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และไม่ต้องการให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ตั้งตนเป็นเจ้าแม่ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีการก่อเหตุซ้ำอีก สร้างความเดือดร้อนให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่ไปเที่ยวกลางคืน นางสาวภัณฑิรา ผมหอม อายุ 31 ปี กล่าวถึงสาเหตุทะเลาะวิวาทว่า ตนมาเที่ยวกับเพื่อน 2-3 คน ที่ผับดังกล่าว ในช่วงกินดื่มภายใน ได้มีปัญหาเนื่องจาก มีการกระทบกระทั่ง ไม่พอใจด้วยสาเหตุด้วยการมองหน้ากันในผับ ตามประสาวัยรุ่น และมีการผลักอกชนเกิดความวุ่นวายขึ้นผับ และมีคนที่ดูแลความปลอดภัยเข้ามาห้าม ก่อนแยกย้ายกัน ตนนึกว่าจะจบ สุดท้ายหลังผับเลิก ตนเดินออกมากับเพื่อน มีกลุ่มคู่กรณีดังกล่าว เดินมารอและหาเรื่องชนเกิดการชกต่อยกัน ทำให้เพื่อนในกลุ่มคู่กรณีล็อคตัวไว้ ก่อนรุมทำร้ายสุดเหี้ยม แสดงตัวเป็นเจ้าแม่ ไม่เกรงกลัวใคร และไม่มีใครกล้าเข้าช่วย หนำซ้ำยังมีคนดึงศีรษะกระแทกพื้นจนหมดสติ จากนั้นจึงมีคนเข้ามาช่วยนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม โชคดีไม่เสียชีวิต ตามร่างกายถูกทำร้ายฟกช้ำหมด มีรอยถลอกเป็นแผลหลายจุด และหน้าผากเป็นแผลถูกจับโขกใส่พื้น หลังหายดี สุดท้ายคดีกับล่าช้า ทั้งมีญาติคู่กรณีมาข่มขู่อีก ตนจึงอยากให้ตำรวจ ดูแลให้ความเป็นธรรม เกรงว่าคดีจะล้ม ตนยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากันมาก่อนไม่ได้ ทะเลาะกัน เพียงมองหน้ากระทบกระทั่งตามประสาคนเที่ยว ไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายแบบหมาหมู่ วอนตำรวจที่มีอำนาจดูแลให้ความเป็นธรรม และหาทางป้องกันไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเกี่ยวกับการดำเนินคดี วันนี้ ทางด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเร่งตรวจสอบเก็บหลักฐาน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และดำเนิคดีตามกำหมายตรงไปตรงมา เบื้องต้นทางด้าน พ.ต.ท.ธีรวุธ ดั่งเกษี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้มีการสอบสวน และทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยได้มีการออกหมายเรียกมารับทราบแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 2 ราย ฐานความผิดในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และมีการสอบสวนเพิ่มเติม หากพบหลักฐาน ว่าบุคคลใด ร่วมกระทำผิดจะได้ ออกหมายเรียกมาสอบสวนดำเนินคดีทั้งหมด ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายยุทธพงศ์ อ่อนอุทัย อายุ 45 ปี พ่อของของผู้ก่อเหตุ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ตนได้สอบถามบุตรสาว ที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุ ยอมรับว่ามีการทะเลาะวิวาทจริง แต่เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้รุมทำร้ายแบบที่ผู้เสียหายระบุ และเป็นการทะเลาะวิวาทกันในผับ ตามประสาวัยรุ่น อย่างไรก็ตามตนในฐานะเป็นผู้ปกครอง ไม่ได้เข้าข้างลูกสาว แต่หากผิดจริงยอมรับผิด และยืนยันว่าไม่ได้มีการพาญาติ หรือบุคคลใดที่มียศตำแหน่งใหญ่โตไปข่มขู่ ให้ยอมความ ส่วนมีการดำเนินคดีนั้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนและพยานหลักฐาน และการเรียกร้องค้าเสียหายตนขอให้เป็นตามข้อเท็จจริง และหากลุกสาวทำผิดตนขอโทษ พร้อมที่จะว่ากล่าวตักเตือน ดูแลไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก