ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี รวบผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทงหญิงวัย 72 ปี เสียชีวิต เพื่อชิงทรัพย์ ก่อนหลบหนีไปทำศัลยกรรมจมูก หนีคดีนานกว่า 19 ปี สุดท้ายไปไม่รอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายไว้ได้
วันที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น.หลังนายสุริยา พนมวิจิตร ลูกชายผู้เสียชีวิตได้นำเอกสาร เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายที่ฆ่านางจุดใหน่ พนมวิจิตร ที่เป็นแม่ โดยเหตุเกิดเมื่อ 19 ปีที่แล้ว และศาลจังหวัดจันทบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับที่ 278/2545 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 จับนางสาวอมร อุ่นทรัพย์ แต่ตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และคดีกำลังจะขาดอายุความใน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นี้ ในเบื้องต้นทาง พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องและได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี รื้อคดีขึ้นมาใหม่และได้มอบหมายให้ พันตำรวจโทธัญญพัทธ์ บุญสุข รองผู้กำกับสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรเมืองจันทบุรี จึงได้เริ่มแกะรอยคนร้ายและประสานกับตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และสามารถติดตามจับกุม นางสาวอมร อุ่นทรัพย์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ 278/2545 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 1/19 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นางจุดใหน่ พนมวิจิตร ผู้ตายเนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกัน และทางผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้ตายไป และอาวุธที่ใช้เป็นมีดเชียนหมากของผู้ตายเอง ซึ่งทิ้งอยู่ในห้องเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวอมร อุ่นทรัพย์ กลับมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพื่อนำตัวมาทำแผนยังจุดเกิดเหตุเกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 37 ถนนพระยาตรัง ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
โดยมีพล.ต.ตเชษฐา โกมลวรรธนะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาติดตามคดีและควบคุมการทำแผนด้วยตนเอง ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ไปทำการศัลยกรรมจมูก ทำให้โครงหน้าเปลี่ยนไป ทำให้การเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ยากขึ้น แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถที่จะตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด แม้จะหนีคดีมาได้กว่า 19 ปีแล้วก็ตาม
นายไตรรงค์ มีทับทิม/จันทบุรี 0870894201
วันที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น.หลังนายสุริยา พนมวิจิตร ลูกชายผู้เสียชีวิตได้นำเอกสาร เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดจับกุมตัวคนร้ายที่ฆ่านางจุดใหน่ พนมวิจิตร ที่เป็นแม่ โดยเหตุเกิดเมื่อ 19 ปีที่แล้ว และศาลจังหวัดจันทบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับที่ 278/2545 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 จับนางสาวอมร อุ่นทรัพย์ แต่ตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และคดีกำลังจะขาดอายุความใน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นี้ ในเบื้องต้นทาง พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องและได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี รื้อคดีขึ้นมาใหม่และได้มอบหมายให้ พันตำรวจโทธัญญพัทธ์ บุญสุข รองผู้กำกับสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรเมืองจันทบุรี จึงได้เริ่มแกะรอยคนร้ายและประสานกับตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และสามารถติดตามจับกุม นางสาวอมร อุ่นทรัพย์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ 278/2545 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2545 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 1/19 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง นางจุดใหน่ พนมวิจิตร ผู้ตายเนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกัน และทางผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เอาทรัพย์สินของผู้ตายไป และอาวุธที่ใช้เป็นมีดเชียนหมากของผู้ตายเอง ซึ่งทิ้งอยู่ในห้องเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวอมร อุ่นทรัพย์ กลับมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพื่อนำตัวมาทำแผนยังจุดเกิดเหตุเกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 37 ถนนพระยาตรัง ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
โดยมีพล.ต.ตเชษฐา โกมลวรรธนะ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางมาติดตามคดีและควบคุมการทำแผนด้วยตนเอง ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ไปทำการศัลยกรรมจมูก ทำให้โครงหน้าเปลี่ยนไป ทำให้การเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ยากขึ้น แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถที่จะตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด แม้จะหนีคดีมาได้กว่า 19 ปีแล้วก็ตาม
นายไตรรงค์ มีทับทิม/จันทบุรี 0870894201