“อุเทน” แนะ ปชป.ยืนหลักการต้านสืบทอดอำนาจให้มั่นกู้ศรัทธาพรรค เสนอชงงดออกเสียงเลือกนายกฯ บีบ พปชร.พึ่ง 250 ส.ว.และเป็น รบ.เสียงข้างน้อย ขาดความชอบธรรมบริหารประเทศ นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย ในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2562 ตนได้เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แบบตลอดชีพ โดยมีผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือได้ชักชวนให้มาร่วมงาน พลิกฟื้น ร่วมกู้ศรัทธาของสถาบันการเมืองเก่าแก่แห่งนี้ให้กลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อีกครั้ง ทั้งนี้หากพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่มี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนใหม่ ต้องการที่จะพลิกฟื้นพรรคขึ้นมาโดยเร็ว จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดโดยไม่ร่วมเป็นจิ๊กซอร์ในการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะถึงจะไม่มี 52 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมสนับสนุนรัฐบาล ก็เชื่อว่ายังมี 250 เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ตั้งโดย คสช.ก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯได้อยู่ดี พรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทิ้งหลักการและจุดยืนในประชาธิปไตยไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยไปเป็นนั่งร้านให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. แต่ควรนำจุดแข็งของพรรคในฐานะฝ่ายตรวจสอบกลับมา ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุดจะดีกว่า และก็ไม่จำเป็นต้องไปสนับสนุนอีกซีกฝ่ายที่อ้างประชาธิปไตยด้วย ถึงเวลาแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเริ่มเดินใหม่อีกครั้งด้วยตนเอง ไม่ก้มหัว ไม่ร้องขอ รักและทะนงในศักดิ์ศรีของพรรค และเป็นนักการเมืองที่ดีมีคุณภาพของประชาธิปัตย์เช่นในอดีต ขอให้พวกท่านสู้กับสิ่งไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม ตามที่อดีตหัวหน้าผู้ก่อตั้งพรรค ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมชย์ ได้เคยกล่าวไว้ เมื่อคราวปราศรัยในวันที่ 4 สิงหาคม 2489 โดยสรุปได้ว่า “อามิส สักวันก็หมด สัจจะตามอุดมคติ จะต้องอยู่” อุดมคตินั้นก็คือ ประชาธิปัตย์สู้เพื่อประชาธิปไตย” นายอุเทน กล่าว. นายอุเทน กล่าวด้วยว่า ในวาระเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรวางตัวเฉยและเป็นกลาง ไม่สนับสนุนซีกใดไว้ในเบื้องต้น ซึ่งน่าจะดีกว่า และเมื่อถึงเวลาลงมติเลือกนายกฯ ซึ่งคงเป็นไปได้ยากที่พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ดังที่เคยประกาศตอนหาเสียงไว้ พรรคประชาธิปัตย์จึงควรงดออกเสียง โดยวางตัวเป็นกลาง ไม่ร่วมโหวตให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ หันไปพึ่งเสียง ส.ว. 250 เสียงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแทน โดยมี ส.ว เป็นฝ่ายสนับสนุน ซึ่งนายกฯ จะหมดความชอบธรรม ขาดความสง่างาม และอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวาระประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี หากไม่ผ่าน ประเทศจะเสียหายแค่ไหน ผู้รับผิดชอบหนีไม่พ้น ส.ว และนายกฯ ที่ดันทุรังฝืนความชอบธรรมที่ควรเป็น ที่ร่างรัฐธรรมนูญมาแบบนี้ “จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทบทวน ทุกพรรคการเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน หาทางออก ร่วมกัน ยืนหยัดสู้เพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจ โดยมักอ้างครรลองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อแสดงให้ฝ่ายผู้กุมอำนาจเห็นว่า บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น และต้องสั่งสอน คสช. ที่ปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้” นายอุเทน ระบุ.