ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (17 พ.ค.62) ประมงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ นายณัฏฐนันท์ บุญแท้ ประมงอำเภอนครหลวงและอำเภอภาชี ได้นำพันธุ์กุ้งก้ามกรามตามโครงการส่งเสริมการเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแบบครบวงจร ซึ่งกิจกรรมหลัก เพื่อการสร้างเครือข่ายและการลดต้นทุนการผลิตและส่งเสริมอาชีพการเกษตร ซึ่งเป็นแบบแผนยุทธศาสตร์ของทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.เป็นประธานโครงการฯ โดยในวันนี้ได้นำพันธุ์กุ้งก้ามกรามลงปล่อยในเขตอำเภอนครหลวง บริเวณแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก หน้าวัดใหม่ชุมพล จำนวน 600,000 ตัว อำเภอภาชี บริเวณคลองระพีพัฒน์ ตำบลดอนหญ้านาง จำนวน 400,000 ตัว และอำเภอท่าเรือ
ซึ่งวันนี้จัดปล่อยที่บริเวณแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดศาลาลอย ตำบลศาลาลอย โดยมีนายประทีป การมิตรี นายอำเภอท่าเรือ เป็นประธานปล่อยกุ้งก้ามกราม พร้อมด้วยนายวันชัย สำรวมจิตร นายก อบต.ศาลาลอย นายพลพิพัฒน์ พิมพ์พาลัย ประมงอำเภอท่าเรือ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.และชาวบ้านได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 700,000 ตัว นายประทีป การมิตรี นายอำเภอท่าเรือ ได้กล่าวว่าเป็นแผนยุทธศาสตร์ของทางจังหวัดฯโดยทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มองเห็นคุณค่าทางภาคประมง เป็นการเพิ่มทรัพยากรกุ้งแม่น้ำที่เติบโตจากธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยเพื่อบริโภค และเพิ่มผลผลิตกุ้งแม่น้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำน้อยรวมทั้งคลองสาขา อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวบ้านที่ทำการประมงกุ้งแม่น้ำ ให้มีรายได้เข้าไปช่วยเหลือในครอบครัวอีกทางหนึ่ง และผู้ที่มีอาชีพประกอบการร้านอาหาร และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งวันนี้จัดปล่อยที่บริเวณแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดศาลาลอย ตำบลศาลาลอย โดยมีนายประทีป การมิตรี นายอำเภอท่าเรือ เป็นประธานปล่อยกุ้งก้ามกราม พร้อมด้วยนายวันชัย สำรวมจิตร นายก อบต.ศาลาลอย นายพลพิพัฒน์ พิมพ์พาลัย ประมงอำเภอท่าเรือ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.และชาวบ้านได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 700,000 ตัว นายประทีป การมิตรี นายอำเภอท่าเรือ ได้กล่าวว่าเป็นแผนยุทธศาสตร์ของทางจังหวัดฯโดยทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มองเห็นคุณค่าทางภาคประมง เป็นการเพิ่มทรัพยากรกุ้งแม่น้ำที่เติบโตจากธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยเพื่อบริโภค และเพิ่มผลผลิตกุ้งแม่น้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำน้อยรวมทั้งคลองสาขา อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวบ้านที่ทำการประมงกุ้งแม่น้ำ ให้มีรายได้เข้าไปช่วยเหลือในครอบครัวอีกทางหนึ่ง และผู้ที่มีอาชีพประกอบการร้านอาหาร และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างเป็นรูปธรรม