พ่อแม่ผู้ปกครองยังแห่นำสิ่งของมีค่า โดยเฉพาะทองคำรูปพรรณ และผ้าไหม ไปจำนำที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์คึกคักวันละ 500 – 1,000 ราย เพื่อนำเงินไปเป็นค่าเทอมและซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน ขณะโรงจำนำปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครองถึงสิ้นเดือน พ.ค. พร้อมเตรียมรองรับให้บริการกว่า300 ล้าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ค.62) บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังแห่นำสิ่งของมีค่า โดยเฉพาะทองคำรูปพรรณ ผ้าไหม และเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจำนำและขอเพิ่มวงเงิน ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อนำเงินไปเป็นค่าเทอม และซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานในช่วงเปิดเทอมอย่างคึกคัก เฉลี่ยวันละ 500 – 1,000 คน จากปกติมีประชาชนมาใช้บริการวันละ 200 – 300 คนเท่านั้น ขณะที่ทางขณะที่ทางสถานธนานุบาลฯ ได้เตรียมเงินสดและเงินทุนหมุนเวียนไว้รองรับให้บริการพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่จะนำสิ่งของมีค่ามาจำนำกว่า 300 ล้านบาท พร้อมทั้งได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียนด้วย โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 สตางค์ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ หลังจากนั้นก็จะคิดอัตราดอกเบี้ยปกติ โดยหากเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ต่อเดือน เงินต้นเกิน 5,000 – 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 น.ส.หยกนภา อุดมเดช ผู้ช่วยผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ช่วงเปิดเทอมใหม่ ก็ได้มีพ่อแม่ผู้ปกครองนำสิ่งของมีค่า โดยเฉพาะทองคำรูปพรรณ มาจำนำและขอเพิ่มวงเงินจำนำอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ 500 – 1,000 คน เพื่อนำเงินไปเป็นค่าเทอมและซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน และคาดว่าจะมีพ่อแม่ผู้ปกครองมาใช้บริการคึกคักไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งทางสถานธนานุบาลเอง ก็ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.เช่นกัน