“ปิยบุตร”อ้างมีจดหมายน้อยแฉมีการเร่งรัด “กกต.”ยื่น “ศาลรธน.” ฟัน “ธนาธร” เรียกร้องเร่งคดีอื่นบนบรรทัดฐานเดียวกัน ดักคอศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เคยสั่งใครยุติปฏิบัติหน้าที่ ระบุเดินหน้าเจรจาตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 ภายใน 7 วัน เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ไม่แน่ใจว่ากกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายธนาธรในฐานะที่เป็นผู้สมัคร ส.ส. หรือส.ส.ถ้าตรวจสอบในฐานะผู้สมัครฯ ทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นส.ส.แล้ว แต่เห็นจากเอกสารข่าว 6 บรรทัด พบว่ากกต.ส่งให้ศาลรธน.วินิจฉัยสถานะตอนเป็นส.ส.แล้ว ดังนั้นสถานะส.ส.นายธนาธรเริ่มต้นวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเรื่องโอนหุ้นเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านั้นแล้ว หรือแม้ว่าจะเป็นผู้สมัคร ก็ยืนยันว่าการโอนหุ้นตั้งแต่ 8 ม.ค.แล้ว เพราะทราบเรื่องคุณสมบัติการสมัครส.ส.เป็นอย่างดี จึงได้จัดการไปเรียบร้อย แต่เมื่อ กกต.ยื่นเรื่องแล้วก็พร้อมที่จะไปสู้ในชั้นศาล ยืนยันว่านายธนาธรมีความตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง “ถ้าจะเล่นกันแบบนี้ก็ขอให้กกต.ใช้มาตรฐานเดียวกัน คือมาตรฐานข้อเท็จจริงแบบเดียวกัน เพราะมีส.ส.จำนวนมากมีปัญหาเรื่องการถือหุ้นสื่อจะส่งศาลรัฐธรรมนูญให้หมดเลยหรือไม่ เพราะเกือบครึ่งสภา นอกจากนี้เรื่องระยะเวลาควรเร่งรัดของคนอื่นเหมือนนายธนาธรด้วย” นายปิยบุตร กล่าว นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า มีผู้หวังดีทั้งโทรศัพท์ ส่งข้อความและส่งจดหมายน้อยมาเตือนว่ามีการเข้ามากดดัน กกต.ให้เร่งรัดคดีนี้ แต่ไม่เชื่อจึงไม่ได้ออกมาชี้แจง คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่นายธนาธรเคยมาให้ถ้อยคำยังระบุว่าให้ชี้แจงเพิ่มเติมได้ จึงไม่คิดว่ากกต.เร่งพิจารณา พร้อมเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาเรื่องหุ้นกับ ส.ส.คนอื่นๆ โดยบรรทัดฐานเดียวกันที่มีการร้องถึงครึ่งสภา ทั้งนี้แม้ว่ากกต.และศาลรัฐธรรมนูญสามารถใช้อำนาจหน้าที่ได้ตามกฎหมาย แต่ควรระมัดระวังเพราะอยู่ในสายตาสาธารณชน ส่วนกรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้วจะสั่งให้นายธนาธร ยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีจนไม่อาจเข้าร่วมรัฐพิธีได้นั้น เรื่องนี้หากเทียบเคียงกรณีที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เคยสั่งให้ใครยุติการปฏิบัติหน้าที่ อย่างกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประกาศ ก็ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นหากจะสั่งให้นายธนาธรก็ต้องมีเหตุผล นายปิยะบุตร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 ว่า เราได้มอบอำนาจให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลแต่กระทั่งวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งเดินไปทางไหนประชาชนก็รู้สึกสิ้นหวังว่าสุดท้ายเลือกตั้งมาแล้วยังจะได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯอีก 1 สมัย พรรคอนาคตใหม่ในฐานะพรรคอันดับสองของฝ่ายที่ไม่เอาคสช.จึงจะจัดตั้งรัฐบาลเอง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ก็เปิดทางให้แล้ว ทั้งนี้มองว่าการที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ลำบากเพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาพรรคการเมืองใหญ่ๆ มีความขัดแย้งกันค่อนข้างมาก แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้งนั้น เชื่อว่าจะสามารถเจรจาต่อรองกันได้ มั่นใจว่าภายใน 7 จะหารือพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 และไม่ได้เป็นการเสียเสียมารยาททางการเมือง ที่ผ่านมาพรรคที่ชนะในอันดับ 1 และ 2 ไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้นเราจะเดินหน้าเจรจากับพรรคอื่นฃ