เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 พ.ค.62 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ. สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม พ.ต.ท.พจน์ พุ่มแหยม, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์และพ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงจับกุมนายทองหล่อหรือพระทองหล่อ ทวีบุตรอายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 ถนนอ่าวลึก-พระแสง ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ จ.142/2562 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2562 ข้อหา“ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้โดยมีอาวุธ จับกุมได้ที่กลางไร่มันสัมปะหลังหมู่ 5 บ้านหนองปลาดุก ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และ นายอนนท์ ทวีบุตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 9 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มจ.69/2560 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 ข้อหา“ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลและบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน” จับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.10 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจากหญิงชราอายุ 78 ปี ผู้เสียหายว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มีนาคม 2562 ขณะที่ตนเองเดินเข้าไปเก็บผลไม้ข้างวัดควนใหม่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ถูกพระลูกวัดดังกล่าวใช้อาวุธมีดจี้คอและฉุดเข้าไปข่มขืนภายในกุฏิร้างด้วยความกลัวจะถูกฆ่าจึงไม่กล้าขัดขืน ภายหลังสำเร็จใคร่แล้วผู้ก่อเหตุเกรงกลัวความผิดจึงได้หลบหนีไป พ.ต.อ.เนติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าพระที่ก่อเหตุคือพระทองหล่อ ผู้ต้องหา ซึ่งบวชจากที่อื่นแล้วมาจำวัดที่เกิดเหตุได้ประมาณ 10 วัน ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าวโดยมีพฤติกรรมชอบดื่มสุรา ส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย แต่เนื่องจากวัดดังกล่าวขณะนั้นไม่มีเจ้าอาวาสเลยต่างคนต่างอยู่ไม่มีใครสนใจใคร กระทั่งวันที่เกิดเหตุทราบว่าพระทองหล่อ ได้ดื่มสุราจนเมาแล้วก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้คอหญิงชราก่อนลากตัวเข้าไปข่มขืนในกุฏิร้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามได้ติดตามสืบสวนจนทราบว่าพระทองหล่อหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่หมู่ 5 บ้านหนองปลาดุก ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยหลบหนีความผิดแล้วสึกออกมารับจ้างชาวบ้านขุดมันสัมปะหลัง จึงนำกำลังไปทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบสวนนายทองหล่อ ให้การรับสารภาพว่าตนเองได้ก่อเหตุข่มขืนหญิงชราผู้เสียหายจริงโดยก่อนก่อเหตุตนเองได้ดื่มสุราภายในวัดและดูคลิปโป๊จนเกิดอารมณ์ทางเพศเห็นหญิงชราผู้เสียหายเดินผ่านมาเก็บผลไม้ภายในวัดจึงได้ใช้อาวุธมีดจี้คอแล้วลากตัวเข้าไปข่มขืนในกุฏิหลังเกิดเหตุกลัวความผิดจึงได้หลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังไล่ล่าติดตามจับกุมตัว นายทองหล่อ หรือ พระทองหล่อ ผู้ต้องหารายแรกอยู่นั้น ก็ได้พบเบาะแสว่าภายหลังที่ พระทองหล่อ ก่อเหตุข่มขืนหญิงชรา ก็ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับนายอนนท์ ทวีบุตร ผู้ต้องหาคดีที่ 2 ซึ่งเป็นหลานของนายทองหล่อ หรือ พระทองหล่อ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบแต่ไม่พบตัวพระทองหล่อ จึงได้ขอทำการตรวจสอบประวัติ นาย อนนท์ หลานชายแทน ก่อนจะพบว่ามีหมายจับคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีท้องที่สภ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า โดยพฤติการณ์ของนายอนนท์ ผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่าได้ทำทีตีสนิทเด็กหญิงผู้เสียหายอายุ 14 ปี ก่อนที่ในวันที่เกิดเหตุจะทราบว่าพ่อแม่เด็กหญิงผู้เสียหายไม่อยู่บ้านไปรับจ้างตัดอ้อยที่ต่างหมู่บ้าน อยู่กันเพียงลำพัง 3 คนพี่น้องที่บ้านพัก ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่บ้านพักแล้วเข้ามาภายในตัวบ้านใช้กำลังลากผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่สาวคนโตเข้าไปในห้องนอนแล้วก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไป ต่อมาเช้าวันรุ่งขึ้นแม่ของเด็กหญิงสังเกตว่าบุตรสาวมีอาการเชื่องซึมจึงเค้นถามจนทราบความจริงว่าเมื่อคืนถูกนายอนนท์ใช้กำลังบังคับข่มขืน จึงพาไปแจ้งความ โดยหลังก่อเหตุนายอนนท์ หลบหนีมาทำงานที่โรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งใน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัว ทั้งนี้สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวนายทองหล่อ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม และนำตัว นายอนนท์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยกระเจา ท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป