ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดฉากฤดูกาล 2018-19 ลงไปเป็นที่เรียบร้อย โดย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ป้องกันแชมป์ไว้ได้แบบหืดจับ หลังจากเฉือนชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไปได้หวุดหวิดเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น โดยตลอด 38 นัดที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้เก็บไปทั้งหมด 98 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูลทำไป 97 คะแนน ถือว่าสูงมากทั้งคู่ งานนี้ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับ “ลิเวอร์พูล” แม้จะคว้าชัยเหนือวูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 โดย “ซาดิโอ มาเน่” สวมบทฮีโร่ซัดเบิ้ล 2 ประตู ต้องยอมรับฤดูกาลนี้ แม้ “หงส์แดง” จะเป็นได้แค่พระรอง แต่ก็ประวัติศาสตร์ พร้อมสร้างสถิติเป็นรองแชมป์ที่มีแต้มมากที่สุด ส่วนแชมป์ยังคงต้องรอเป็นปีที่ 30 ต่อไป อย่างไรก็ดี “หงส์แดง” ยังคงมีคิวเตะนัดชิงชนะเลิศ “ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก”กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในวันที่ 1 มิ.ย. และหากคว้าแชมป์ลงได้ก็จะสร้างสถิติเป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 6 นอกจากนี้ “หงส์แดง” ยังสร้างชื่อคว้ารางวัลต่างๆ ในพรีเมียร์ลีก โดยเหล่านักเตะคนดังก็กวาดรางวัลไปเพียบทั้ง “โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่” ที่คว้ารางวัลดาวซัลโว “รองเท้าทองคำ” ไปครอบครองร่วมกับ “ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง” จากอาร์เซน่อล ที่ 22 ประตูเท่ากัน ส่วนนักเตะกองหลังของทีมลิเวอร์พูล “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค” ก็คว้าตำแหน่ง “นักเตะยอดเยี่ยม” เช่นเดียวกับ “อลิสซอน เบ็คเกอร์” ผู้รักษาประตูของหงส์แดง ที่คว้ารางวัล “ถุงมือทองคำ”หลังเก็บคลีนซีตที่ 21 นัด ด้าน “เจอร์เก้น คล็อปป์” กุนซือหงส์แดง เปิดใจว่า การได้อันดับ 2 พรีเมียร์ลีกไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่เราต้องมองว่านี่เป็นก้าวแรกสำหรับทีมชุดนี้ เรามีค่าอายุเฉลี่ยที่น้อย และกำลังเดินทางสู่ฟุตบอลที่ยิ่งใหญในอนาคต มันมหัศจรรย์แค่ไหนที่เราได้ลุ้นถึง 2 แชมป์ในซีซั่นเดียวแบบนี้ “การขับเคี่ยวในปีนี้ถือว่าเหลือเชื่อมากๆ กับ ทั้งสองทีมพยายามขับเคี่ยวกัน และมีความเชื่อมั่นซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราทำ เมื่อคุณเจอคู่แข่งอย่าง ซิตี้ มันเป็นเรื่องยากลำบาก พวกเขาไม่สามารถฉีกหนีเรา และเราก็ทำไม่ได้เช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้พรีเมียร์ลีกจบแล้ว ผมขอยินดีและแสดงความเคารพต่อแมนฯซิตี้ ที่เก็บได้สองซีซั่นนี้ถึง 198 แต้ม พวกเขาสุดยอดจริงๆ ส่วนพวกเรามีเวลา 3 สัปดาห์ในการเตรียมตัวสำหรับรอบชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก เราต้องพยายามกันต่อไป” ทางด้าน “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” กุนซือเรือใบสีฟ้า ซึ่งพาสโมสรที่ตัวเองคุมทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 8 จาก 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา ยอมรับว่า “นี่เป็นแชมป์ที่ลำบากยากเย็นที่สุดตั้งแต่ทำงานโค้ชมาเลยทีเดียว การจะคว้าแชมป์ฤดูกาลนี้ ได้ แมนฯซิตี้ต้องเก็บชัยชนะถึง 14 นัดติดต่อกัน ไม่เคยมีครั้งไหนยากขนาดนี้ ตนคงต้องแสดงความยินดีกับลิเวอร์พูลกับฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม และต้องขอบคุณมากๆ ด้วยเช่นกัน ฤดูกาลที่แล้ว ซิตี้สร้างมาตรฐานขึ้นมาด้วยการเป็นแชมป์ที่ 100 คะแนน และมาฤดูกาลนี้ หงส์แดงช่วยเป็นแรงผลักดันและพาซิตี้สร้างมาตรฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม การได้แข่งขันกับทีมที่ช่วยยกระดับของเราได้ขนาดนี้เป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ การเก็บแต้มรวมถึง 198 คะแนนใน 2 ฤดูกาลเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริงๆ” กุนซือชาวสเปน ยังกล่าวในตอนท้ายว่า ปกติถ้าฤดูกาลที่แล้วได้ถึง 100 คะแนน ก็มีโอกาสสูงที่ฟอร์มจะดร็อปลง แต่หงส์แดงก็ช่วยให้ซิตี้รักษามาตรฐานเอาไว้ ฤดูกาลหน้าเชื่อว่างานจะยากขึ้นอีก แต่ทีมก็ต้องพยายามแข็งแกร่งขึ้นด้วย ในเมื่อคุณคว้าแชมป์ได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว ก็มีความรู้สึกว่าฤดูกาลถัดไปจะทำได้เหมือนเดิม และแม้ว่าการคว้ารองแชมป์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลในครั้งนี้ ทำให้สาวกเดอะค็อปทั่วโลกต้องชอกฉ้ำระบบใจ ที่ทีมโปรดไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่เชื่อว่า เหล่าเดอะค็อปทั้งหลายยังคงสนับสนุนทีมอย่างเต็มที่ ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักชอบทีมอื่นอย่างแน่นอน สำหรับ จำนวนของยอดเงินรายได้ในฤดูกาลนี้ ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมแชมป์รวยที่สุดเป็นที่เรียบร้อย หลังจากมีการประเมินรายได้ออกมาว่า พวกเขาจะได้รับเงินถึง 150 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว จากค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ ตามมาด้วย แมนฯซิตี้ จะได้รับเงิน148 ล้านปอนด์ เชลซี ได้รับเงิน143 ล้านปอนด์ และสเปอร์ส ได้รับเงิน142 ล้านปอนด์ สำหรับสถิติที่น่าสนใจของพรีเมียร์ลีกมีดังนี้ l.เกม 380 นัดปีนี้ยิงไป 1,072 ลูก เฉลี่ย 2.82 ประตูต่อ 1 นัด 2.สกอร์สูงสุดในเกมเดียวคือ เอฟเวอร์ตัน แพ้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-6 และพาเลซ ชนะ บอร์นมัธ 5-3 3.ทีมที่ไม่แพ้ใครนานที่สุดคือ ลิเวอร์พูล 20 นัดรวด 4.ทีมที่ไม่ชนะใครนานที่สุดคือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 14 นัดรวด 5.ทีมที่แพ้ติดต่อกันนานที่สุดคือ ฟูแล่ม รวม 9 นัดรวด 6.มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย สลาวิซ่า โยคาโนวิช, มาร์ค ฮิวจ์ส, โชเซ่ มูรินโญ่, ดาวิดว้ากเนอร์, โคล้ด ปูแอล และเคลาดิโอ รานิเอรี่ 7.ทีมที่ได้ไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีก คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี และสเปอร์ส 8.ทีมที่ได้ไปยูโรป้า ลีก คือ อาร์เซนอล และแมนฯยูไนเต็ด 9.ทีมตกชั้นคือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, ฟูแล่ม และฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ l0.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มแย่ที่สุดในรอบ 45 ปี เมื่อมีคะแนนตามหลังทีมแชมป์มากถึง 32 คะแนน l1.ลิเวอร์พูล เป็นทีมแรกที่ทำแต้มเกิน 90 คะแนนแต่ไม่ได้แชมป์ และแพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้น 12.ดาวซัลโวซีซั่นนี้มีถึง 3 คน คือ โมอาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ จากลิเวอร์พูล อีกคนคือ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง ของอาร์เซนอล คนละ 22 ลูก l3.อลิสซอน เบ๊คเกอร์ ไม่เสียประตู 21 นัด เป็นอันดับ 2 ตลอดกาล เท่ากับเอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปี 2008-09 ส่วนอันดับ 1 คือ ปีเตอร์ เช็ก 24 นัด ปี 2004-05 14.เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ๊กของลิเวอร์พูล ทำสถิติจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดตลอดกาลจากตำแหน่งกองหลัง รวม 12 ครั้ง