เจาะเฟรม /การะเกด ตอนที่ได้ดูหนังเรื่อง แมรี่ ป๊อปปิ้น ที่มี จูลี่ แอนดรู นำแสดง แล้วมีฉากที่ตัวการ์ตูนออกมาเล่นมาร้องเพลงกับคนจริงๆนั้น ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ซึ่งนั่นก็เนิ่นนานมาแล้ว ถึงวันนี้ การที่เราจะได้เห็นตัวการ์ตูนมาแสดงคู่กับคนเป็นๆในหนังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ได้น่าตื่นเต้นอีกต่อไป เมื่อไม่แปลก ไม่น่าตื่นเต้น ปัญหาจึงอยู่ที่ทำอย่างไรจะให้ผู้ชมยอมเสียเงินเข้าไปดู POKEMON DETECTIVE PIKACHU อาจจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบก็ได้ว่า ความสำเร็จมันอยู่ที่การเลือกตัวการ์ตูนต่างหาก ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า โปเกมอน เป็นตัวการ์ตูนที่ดีรับความนิยม มีคนรู้จักไปทั่วโลก ตั้งแต่การ์ตูนภาพนิ่งในหนังสือ จนถึงการ์ตูนเคลื่อนไหวที่ฉายทางทีวี แต่ที่มาดังมากที่สุดก็ปีสองปีก่อนที่เป็นเกมส์ให้คนทั้งโลกตามล่าทางโทรศัพท์มือถือ ที่ไปไหนก้มีแต่คนออกล่าโปเกมอนกันให้ควัก ตั้งแต่ตามห้างจนถึงศาลพระภูมิเลยทีเดียวมันเป็นความฮิตที่ออกจะคล้ายกับอุปทานหมู่ก็ว่าได้ แต่มันเป็นความฮิตที่มาเหมือนคลื่นซึนามิ โครมเดียวก็หายไปจากความทรงจำ เพราะวันนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครมาตามจับโปเกมอนกันอีกแล้ว ดังนั้นการที่จะสร้างหนังแล้วเอาโปเกมอนมาเป็นหลักของเรื่องมันจะยังประสบความสำเร็จอยู่อีกหรือ สิ่งที่น่าคิดอย่างหนึ่งก็คือ บางทีคนที่เล่นเกมส์จับโปเกมอน อาจจจะไมใช่แฟนพันธุ์แท้ของโปเกมอนก็เป็นได้ เพราะคนที่รักที่ชอบเป็นโอตะกันแล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ อีกทั้งการทำออกมาเป็นหนัง มันทำให้ได้เห็นโปเกมอนในรูปแบบสามมิติต่างไปจากที่เห็นในการ์ตูน โดยเฉพาะเจ้าตัวเอกอย่างปิกาจู ที่หน้าตาน่ารักเป็นที่สุด และการที่จะได้เห็นเหล่าโปเกมอนมาในรูปแบบสามมิติที่ให้ความรู้สึกมากกว่าการเห็นในแบบการ์ตูนก็เป็นสิ่งที่น่าลองกันไม่น้อย อีกทั้งดูแล้วเนื้อหาก็ต่างไปจากการ์ตูน มันจึงถือเป็นความแปลกใหม่ที่น่าสนใจไม้อยทีเดียว โปเกมอนฉบับหนังใหญ่มาในแนวหนังสืบสวน หนังพาเราเข้าไปสู่โลกที่คนกับเหล่าโปเกมอนอาศัยอยู่ด้วยกันในเมืองที่ชื่อว่า ไรม์ ซึ่งตัวเอกอย่าง ทิม ต้องตามหาว่าพ่อของเขาที่เชื่อกันว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนั้น มันจริงอย่างที่เป็นข่าวหรือเปล่า แน่นอนว่า ทิม กับ พ่อ มีสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นนัก และทิมเองก็ไม่ได้มีโปเกมอนเป็นของตัวเอง เมื่อเข้ามาเก็บข้าวของของพ่อในที่พัก ก็บังเอิญไปเจอกับโปเกมอนที่ชื่อว่า ปิกาจู เข้า มันเป็นโปเกมอนที่แปลกกว่าตัวอื่นตรงที่ มันสื่อสารโดยการพูดคุยกับเข้าได้ เพียงแต่มันจำไม่ได้ว่ามันมายังไง ปิกาจู เป็นโรคความจำเสื่อม แต่ในความเสื่อมของความจำนั้น มันรู้แต่ว่าจะต้องมาตามหาทิม กับมันรู้ว่าตัวเอชกินกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ กาแฟไม่ได้ฟื้นความทรงจำของมัน แต่มันเป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่แยกออกจากความทรงจำ น่าสนใจที่ว่า พ่อของทิมก็ติดกาแฟ การสืบให้รู้ว่า พ่อของเขาตายอย่างไร ตายเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือเพราะถูกฆาตกรรมเพราะไปรู้แผนการร้ายอะไรบางอย่างที่จะทำให้โลกของเหล่าโปเกมอนเปลี่ยนไปตลอดกาลหรือเปล่า ทิมกับปิกาจูจึงต้องใช้ความสามารถทุกอย่างเพื่อสืบหาความจริง แม้ประเด็นของหนังจะไม่ได้แปลกใหม่ แต่ความเป็นโปเกมอนมันน่าสนใจ เพราะในเมืองไรม์ เราจะเห็นโปเกมอนหลากหลายสายพันธ์เดินเหินเคียงคู่กับมนุษย์อย่างกลมกลืน ฉากอย่างนี้แฟนโฟเกมอนก็ฟินกันแล้ว หรือกับปิกาจู หนังสร้างออกมาได้ทั้งน่ารักน่าชัง แถมยังมีความกวนอยู่ในตัวอีกต่างหาก เพราะดูไปก็เหมือนกับตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้ โดยสรุป POKEMON DETECTIVE PIKACHU น่าจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มของคนที่รักที่ชอบโปเกมอนเป็นทุนอยู่แล้ว ถึงไม่ใช่แฟนโปเกมอนก็ดูได้พอเพลิน เหมือนเราได้นั่งจิบกาแฟอุ่นๆสักถ้วย แต่ต้องจิบให้หมดถ้วยก่อนกาแฟมันจะเย็น ภาพจาก www.siamzone.com