ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา บริเวณศาลากลางจังหวัดพังงา หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา นายอรุณ ดุลยเกษม อายุ 65 ปี อาชีพลูกจ้างแมนชั่น(ที่พัก)แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองพังงา อยู่บ้านเลขที่ 10/2 หมู่ 1 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา นำหลานวัย 2 ขวบ เข้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา พบนายมนัส หนูรักษ์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา ร้องขอความช่วยเหลือให้ติดตามความคืบหน้าเร่งรัดหาตัวผู้กระทำความผิดคดี รถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี จนทำให้ นายเอกพงษ์ บุญสูง อายุ 34 ปี อาชีพลูกจ้างร้านซ่อมจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.62 เวลา 12.00 น. ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองพังงา หมู่ 4 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา ซึ่งระยะเวลาผ่านร่วม 2 เดือน ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้ความคืบหน้าเกี่ยวกับการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ที่ผ่านมา นายอรุณ ดุลยเกษม เข้าติดตามความคืบหน้าต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งคาโงก อ.เมืองพังงา หลายครั้ง จนทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และฌาปนกิจศพ เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีเงินช่วยเหลือจาก บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย ตาม พ.ร.บ.จักรยานยนต์ จำนวนร่วม 40,000 บาท ขณะที่ นายเอกพงษ์ มีลูกจำนวน 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 2 ขวบ เป็นภาระที่นายอรุณ ต้องเลี้ยงดู ซึ่งเจ้าหน้าที่บริษัทกลางฯได้แนะนำว่า หากมีคู่กรณีและสามารถเชื่อได้ว่า อีกฝ่ายเป็นผู้กระทำความผิดจะมีเงินช่วยเหลือให้อีกจำนวนกว่า 250,000 บาท นายอรุณ จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดคดีติดตามความคืบหน้าเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงนำรถคู่กรณีมาดำเนินคดี จะได้นำเงินส่วนที่ช่วยเหลือเป็นทุนในการเลี้ยงดูเด็กๆที่กำพร้าพ่อ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์พร้อมประสานติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ เบื้องต้นทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจเยี่ยมบ้านที่พักของ นายอรุณ ซึ่งลูกของนายเอกพงษ์ พักอาศัยอยู่ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกับสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป