คนขับรถเทรลเลอร์ เชื่อว่าคนขับรถตู้แฟนบอลทีมการท่าเรือ ไม่ชินเส้นทาง แซงบนเส้นทึบ จนเกิดเหตุสลดดับคาที่ 5 รายบาดเจ็บ 3 ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุและร่องรอยเชี่ยวชน เพื่อเร่งสรุปหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถตู้ของกองเชียร์และแฟนบอลทีมการท่าเรือ เอฟซี ชนประสานงานกันรถเทลเลอร์จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายและได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดบริเวณสามแยกบ้านโสกก้อง ม.6 ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 15 พ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ รวมทั้งการตรวจร่องรอยการเชี่ยวชนของรถคู่กรณีทั้งสองคัน โดยพบว่ายังคงมีสิ่งของตกอยู่จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นบานประตูรถตู้ กองและอุปกรณ์ในการเชียร์ทีมการท่าเรือเอฟซี บัตรเข้าชมการแข่งขันและบัตรประจำตัวกองเชียร์ตกอยู่ ในขณะที่รถคู่กรณีทั้งสองคันได้ถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ชุมแพ เป็นที่เรียบร้อยแล้วตามขั้นตอนของการสอบสวน ร.ต.อ.สุวิวัฒน์ นิติไกรสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ในฐานะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น รถคู่กรณีทั้งสองฝ่าย มีประกันภัยและ พ.ร.บ.ทั้ง 2 คัน แต่ในทางคดีนั้นต้องให้เจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ทำการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนก่อนจึงจะสามารถตอบได้ว่าใครผิดใครถูก ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน และรายละเอียดในบางเรื่องก็เกี่ยวกับกับสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบในทุกเรื่องอย่างละเอียดรอบคอบ ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้น ได้เก็บรักษาไว้ที่ รพ.ชุมแพ เพื่อให้ครอบครัวมาติดต่อขอรับเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามลำดับต่อไป ขณะที่ นายสายันห์ สุวรรณชัยรบ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 8 ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ได้ขับรถบรรทุกออกจากบริษัทฯ ที่ อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อมุ่งหน้าไปที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยัง อ.ชุมแพ ซึ่งในจุดดังกล่าวนั้นเป็นช่วงขึ้นเนิน ได้มองเห็นรถยนต์ที่วิ่งตามหลังกันมา 2-3 คัน ชะลอความเร็วคล้ายจะเลี้ยวเข้าซอยไปในหมู่บ้าน และมองเห็นรถตู้คันเกิดเหตุวิ่งตามหลังเป็นคันที่ 4 แต่ไม่ชะลอความเร็ว และได้แซงรถทั้งหมดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทั้งที่จุดดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทึบ จึงได้พุ่งชนรถบรรทุกที่ตนเองขับมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหว " เมื่อรถชนประสานงานกันและได้หยุดนิ่งแล้ว ผมจึงได้รีบลงจากรถมาดูก็พบว่ามีทั้งคนเจ็บและคนตาย จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ ทั้งนี้ก่อนที่จะชนประสานงานกันนั้นผมเห็นรถตู้ขับแซงรถคันอื่นที่ชะลอความเร็วผมทั้งบีบแตร กระพริบสัญญาณไฟเตือน แต่รถตู้ไม่ชะลอความเร็ว จนเกิดเหตุสลดขึ้น จึงเชื่อว่าคนขับไม่ชินเส้นทางจึงได้ขับรถแซงมาอย่างเร็วเช่นนั้น" ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงของการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้นได้พบพนักงานของบริษัทประกันภัยลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพรถทั้งสองคัน และจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า รถตู้มีประกันภัยประเภทที่ 1 ของ และ พ.ร.บ. ขณะที่รถส่วนรถเทเลอร์ มีประกันประเภทที่ 3 และ พรบ. เช่นกัน