นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตามแผนการดำเนินงาน Sansiri For Greater Well-Being ที่วางไว้ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2562 บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมได้กว่า 6,627 ล้านบาท โดยยอดขายหลักมาจากโครงการแนวราบโดยเฉพาะโครงการทาวน์เฮาส์ที่เติบโตขึ้นถึง 166% ความสำเร็จมาจากการรุกพัฒนาทาวน์เฮาภายใต้แบรนด์ “สิริ เพลส” ทาวน์เฮาส์คุณภาพ ในระดับ Best in Class ต่อยอดความสำเร็จมาจากปีที่ผ่านมา โดยล่าสุด โครงการ สิริ เพลส แอร์พอร์ต ภูเก็ต ที่เปิดตัวในตลาดต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก ยังสร้างยอดขายไปแล้วถึง 65% ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2562 บริษัทยังมีรายได้รวม 6,638 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 4,893 ล้านบาทซึ่งมาจากการโอนโครงการแนวราบถึง 80% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 20% อาทิ โครงการบุราสิริ ปัญญาอินทรา ที่มียอดโอนสูง จากการเปิดตัวบ้านซีรีย์ใหม่ 4 ห้องนอน โซนใกล้สวนและคลับเฮาส์ และการเปิดตัวคลับเฮาส์เป็นครั้งแรกในสไตล์ American Newport ริมทะเลสาบบรรยากาศเมืองท่าฝั่งตะวันตก ที่สามารถชมทัศนียภาพของทั้งโครงการได้แบบ panorama บนประภาคารที่สูง 15 เมตร ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ พร้อมสวนส่วนกลางกว่า 13ไร่ และ Educational Playground รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการที่เดินทางสะดวก บนทำเลใกล้ทางพิเศษวงแหวนตะวันออก-รามอินทรา และทางพิเศษฉลองรัช(ด่านจตุโชติ) ส่งผลให้ลูกค้าชื่นชอบและตัดสินใจซื้อโครงการอย่างรวดเร็ว ขณะที่โครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ 345, โครงการเศรษฐสิริ พหล-วัชรพล, บ้านแสนสิริ พัฒนาการ และโครงการ 98Wireless ยังได้รับการตอบรับโอนที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน ในขณะที่ตลาดต่างจังหวัด ประกอบด้วย 3 โครงการที่อยู่อาศัยที่มียอดโอนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ คอนโดมิเนียมบ้านไม้ขาว ภูเก็ต ซึ่งปิดการขายโครงการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โครงการดีคอนโด แคมปัส กู้กู ภูเก็ต และโครงการบ้านเดี่ยว สราญสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต ทั้งนี้ จากการตอบรับโอนที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกนี้ช่วยตอกย้ำความต้องที่อยู่อาศัยในการซื้อเพื่ออยู่จริงทั้งยัง ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 404 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 32% นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการบริหารธุรกิจและบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีกถึง 1,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทยังมีแผนการโอนคอนโดมิเนียมใหม่ทั้งหมดอีกถึง 12 โครงการ รวมทั้งแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งการดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมายยอดขาย 36,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวม 29,000 ล้านบาทที่วางไว้ในปี 2562