วันที่ 14 พ.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายได้ก่อเหตุข่มขืนหญิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ สัญชาตินอร์เวย์ อายุ 26 ปี เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาบริเวณถนนลูกรัง ซอยตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกาะพะงัน หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงันจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งภายหลังได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติม จาก สภ.เกาะพะงัน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า ภายหลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามกฎหมาย รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน และทำการถ่ายภาพ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป รวมถึงตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแส ข้อมูลของคนร้าย และตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบถึงผู้ก่อเหตุ ต่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับนายเรวัตหรือ มอส หาญสุวรรณ อายุ 34ปี ผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ซึ่งศาลได้อนุมติหมายจับดังกล่าวในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” มีอายุความ 20 ปี วันเดียวกันเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายเรวัตหรือ มอส ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ จากการสอบสวนนายนายเรวัตหรือ มอส ให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุข่มขืนผู้เสียหายจริง พร้อมให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนมายังบริเวณที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายกำลังเดินอยู่ จากนั้นจึงได้อาสาพาผู้เสียหายหากระเป๋าเงินที่ตกหล่น และตนได้พาผู้เสียหายไปยังสถานที่เกิดเหตุ และได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวชื่นชมพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกส่วนที่ช่วยกันระดมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม