รมว.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งเกิดวิสาหกิจแปลงใหญ่ข้าวเริ่มเพาะปลูกแล้ว 2 แปลง ผลิตข้าวชั้นดีป้อนตลาด นักวิชาการมก.หนุน “กฤษฏาโมดล” ยกระดับรายได้เกษตรยั่งยืน เมื่อวันที่ 13 พ.ค.62 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายประสงค์ ประไพพงษ์ อธิบดีกรมการข้าว ได้รายงานแผนการดำเนินงานวิสาหกิจแปลงใหญ่ข้าว 2 แปลงใหญ่ต้นแบบว่า ที่สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก 2,000 ไร่ เกษตรกรร่วมโครงการ 138 ราย โดยจากการหารือร่วมกับผู้จัดการ สหกรณ์ ผู้อำนวยการ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่ดูแลการผลิตข้าว กข43 ของกลุ่มนาแปลงใหญ่ ผู้จัดการแปลง (เจ้าหน้าที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก) กรมการข้าว และผู้แทนบริษัท ซี.พี. จำกัด ได้ข้อสรุปว่า กลุ่มนาแปลงใหญ่กลุ่มนี้ปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 เนื่องจากเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ ดัชนีน้ำตาลต่ำ เป็นที่นิยมของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้เพาะปลูกมาตั้งแต่เดือนเมษายน โดยปีนี้สหกรณ์ปลูกเป็นปีที่ 2 จึงมีแผนในการบริหารจัดการเชิงธุรกิจครบวงจร นำผลผลิตส่งบริษัท ซี.พี. จำกัด และสหกรณ์ผลิตจำหน่ายเองส่วนหนึ่ง เมื่อถึงหน้าแล้งจะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา โดยดำเนินการร่วมกับบริษัท ซี.พี. จำกัด ในการบริหารจัดการเชิงธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่เรื่องเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ปลูกการให้บริการแก่สมาชิกนาแปลงใหญ่โดยสหกรณ์ และบริษัท ซี.พี. จำกัดรับซื้อคืน ส่วนอีกแปลงคือ วิสาหกิจแปลงใหญ่ข้าวตำบลโพนข่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้เหมาะปลูกข้าวหอมมะลิเกษตรกรร่วมโครงการ 90 ราย พื้นที่ 1,200 ไร่ ปลูกข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ร่วมกับบริษัทเจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการไถเตรียมแปลง โดยจะเริ่มเพาะปลูกในฤดูฝนนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป “แปลงใหญ่ข้าวต้องปลูกตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้องสีในโรงสีที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ทั้งนี้ข้าวทั้ง 2 ชนิดเป็นข้าวคุณภาพดี การปลูกแบบแปลงใหญ่สามารถควบคุมตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ไม่ให้มีข้าวสายพันธุ์อื่นเจือปนได้ รวมถึงมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า มาจากแปลงใด ซึ่งกรมการข้าวจะออกเครื่องหมายรับรองข้าวพันธุ์แท้ให้” นายกฤษฎา กล่าว ด้าน ร.ศ.วิษณุ อรรถวาณิช คณะเศรษฐศาตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เกษตรกรดำเนินการเองอาจมีศักยภาพการผลิตและการตลาดไม่ครบวงจร แผนการตลาดนำการผลิต ของนายกฤษฏา หรือ “กฤษฏาโมเดล” จะปฏิรูปภาคเกษตรได้ผลภาคเอกชนเข้ามาสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ลงทุนด้านเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงรับซื้อ แปรรูป และหาตลาด ดังนั้นโครงการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ที่กระทรวงเกษตรฯ วางไว้เป็นโครงสร้างการทำเกษตรแผนใหม่ของประเทศจึงจะช่วยเพิ่มพูนรายได้ของเกษตรกรได้เพื่อนำไปสู่การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม ปรับโครงสร้างภาคเกษตรได้ยั่งยืน