วันที่ 13 พ.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการค้นหา เด็กชายวัย 5 ปี ซึ่งเป็นบุคคลสูญหาย ในพื้นที่ สภ.เปือยน้อย จว.ขอนแก่น ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เปือยน้อย ภ.จว.ขอนแก่น ว่า ได้รับแจ้งว่า มีเด็กสูญหาย ชื่อ ด.ช.ธนวรรชน์ แก้วตา หรือน้องอั้ม อายุ 5 ขวบ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2559 เวลาประมาณ 18.00 น. ณ บริเวณหนองน้ำสระวงษ์ บ้านหัวขัว หมู่ 7 ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาทำการสืบสวนติดตามมาโดยตลอด เป็นเวลากว่า 3 ปี
ต่อมามีการสอบสวนปากคำพยานอีกครั้งซึ่งเป็นเพื่อนของ ด.ช.ธนวรรชน์ฯ โดยพนักงานสอบสวน ร่วมกับสหวิชาชีพ อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ปกครอง ซึ่งพยานให้การว่า ด.ช.ธนวรรชน์ฯ ถูกรถแบ็กโฮที่ตักดินจากการขุดลอกหนองน้ำสระวงษ์ถมทับร่างบริเวณทิศเหนือของหนองน้ำ ซึ่งพยานได้นำชี้จุดที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าว จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานทรัพยากรณีวิทยา อบจ.ขอนแก่น เทศบาลเปือยน้อย ประชาคมหมู่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการสูบน้ำจากสถานที่ที่คาดว่าเป็นจุดเกิดเหตุ จากนั้นจะทำการขุดดินบริเวณดังกล่าว และหากพบชิ้นส่วนกระดูก จะนำไปตรวจพิสูจน์หาอัตลักษณ์ว่าเป็นของผู้ใด โดยในส่วนของคนขับรถแบ็กโฮดังกล่าวตามวันเวลาเกิดเหตุนั้น พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการค้นหา ซึ่งหากพบชิ้นส่วนกระดูก หรือพยานหลักฐานก็จะนำส่งไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ อย่ไร และตรวจสอบหาอัตลักษณ์ว่าเป็นของบุคคลใด พร้อมสืบสวน สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความ เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการติดตามผู้สูญหาย และเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยอาศัยหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน
ต่อมามีการสอบสวนปากคำพยานอีกครั้งซึ่งเป็นเพื่อนของ ด.ช.ธนวรรชน์ฯ โดยพนักงานสอบสวน ร่วมกับสหวิชาชีพ อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ปกครอง ซึ่งพยานให้การว่า ด.ช.ธนวรรชน์ฯ ถูกรถแบ็กโฮที่ตักดินจากการขุดลอกหนองน้ำสระวงษ์ถมทับร่างบริเวณทิศเหนือของหนองน้ำ ซึ่งพยานได้นำชี้จุดที่เกิดเหตุบริเวณดังกล่าว จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานทรัพยากรณีวิทยา อบจ.ขอนแก่น เทศบาลเปือยน้อย ประชาคมหมู่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการสูบน้ำจากสถานที่ที่คาดว่าเป็นจุดเกิดเหตุ จากนั้นจะทำการขุดดินบริเวณดังกล่าว และหากพบชิ้นส่วนกระดูก จะนำไปตรวจพิสูจน์หาอัตลักษณ์ว่าเป็นของผู้ใด โดยในส่วนของคนขับรถแบ็กโฮดังกล่าวตามวันเวลาเกิดเหตุนั้น พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการค้นหา ซึ่งหากพบชิ้นส่วนกระดูก หรือพยานหลักฐานก็จะนำส่งไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าเป็นกระดูกมนุษย์หรือไม่ อย่ไร และตรวจสอบหาอัตลักษณ์ว่าเป็นของบุคคลใด พร้อมสืบสวน สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความ เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการติดตามผู้สูญหาย และเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยอาศัยหลักนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน