บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ไตรมาส 1 มีรายได้รวม 5,643.0 ล้านบาท ลดลง 1.7% เทียบปีก่อน ในขณะที่กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 1,497.6 ล้านบาท ลดลง 10.0% เทียบปีก่อน และกำไรสุทธิจำนวน 825.9 ล้านบาท ลดลง 6.5% เทียบปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรม รายได้รวม 2,755.6 ล้านบาท ลดลง 6.6% เทียบปีที่ผ่านมา โดยผลการดำเนินงานโรงแรมในต่างจังหวัด (เช่น จังหวัดกระบี่ เกาะสมุย จังหวัดภูเก็ต และเมืองพัทยา) ได้รับผลกระทบจากการลดลงของลูกค้าชาวจีน และชาวยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมอตุสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย อีกทั้งยังมีการปิดห้องจำนวน 36 ห้องของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท สมุย ในขณะที่ผลการดำเนินงานโรงแรมในกรุงเทพฯ ได้รับผลจากการลดลงของงานจัดประชุมสัมมนาในช่วงการเลือกตั้ง ทั้งนี้ บริษัทฯมี EBITDA จำนวน 1,175.5 ล้านบาท ลดลง 11.2% เทียบปีก่อน โดยอัตราการทำกำไร (% EBITDA Margin) ลดลง 2.2% อยู่ที่ 42.7% เนื่องจากการลดลงของรายได้ห้องพักเฉลี่ย (RevPar) และรายได้รวม ธุรกิจอาหาร รายได้รวม 2,887.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เทียบปีก่อน เป็นผลจากการขยายสาขาจำนวนสุทธิ 104 สาขา โดยอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) เพิ่มขึ้น 3.4% ขณะอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSS) ลดลง 3.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการลดลงของ SSS ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อย่างไรก็ดี เคเอฟซี เดอะ เทอเรส และคัตซึยะ ยังคงมี SSS อยู่ในเกณฑ์บวก ขณะที่อัตราการทำกำไร (% EBITDA Margin) ลดลง 1.0% เป็น 11.2% เนื่องจากการออกชุดโปรโมชั่นที่มีต้นทุนสูง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบและค่าขนส่ง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้รับรู้รายได้เงินชดเชยความเสียหายจากประกันสำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี ราชดำริ และเซ็นเตอร์ วัน เมื่อปี 2553 รวม 80.6 ล้านบาท (สุทธิจากภาษี) ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 825.9 ล้านบาท ลดลง 6.5% เทียบปีก่อน แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 จะมีการชะลอตัว อย่างไรก็ดี แนวโน้มการฟื้นตัวคาดว่าจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังจากฐานต่ำที่ค่อนข้างต่ำในปีก่อน กอปรกับแรงกระตุ้นจากมาตรการขยายระยะเวลายกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On Arrival) จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมปีนี้ และมาตรการเงินลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ บริษัทฯจึงได้ปรับประมาณการปี 2562 ลง โดย รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPar) คงที่เทียบกับปี 2561 อย่างไรก็ดี รายได้รวมธุรกิจโรงแรมอาจลดลงเทียบปีที่ผ่านมา เนื่องจากการปิดปรับปรุงโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท สมุย ในช่วงครึ่งปีหลัง และแนวโน้มการลดลงของรายได้การจัดประชุมสัมมนาเทียบปีก่อน ขณะที่ธุรกิจอาหาร เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวในไตรมาส 1/2562 และยังคงขาดปัจจัยภายนอกสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่ชัดเจน กอปรกับภาวะการแข่งขันสูง จึงปรับประมาณการอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales: SSS) คงที่เทียบปีก่อน อัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (Total-System-Sales : TSS) ประมาณ 5% - 6% เทียบปีที่ผ่านมา และการเติบโตของจำนวนสาขา 8% - 9% เทียบปีก่อน