กรมชลฯ เร่งช่วยเหลือสวนลำไย ยืนต้นตายกว่า 15 ไร่ จ.เชียงใหม่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 15 ไร่ เจอฝนทิ้งช่วงนานกว่า 4 เดือน เมื่อวันที่ 11 พ.ค.62 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 1 ร่วมกับ ผู้แทนเกษตรและสหกรณ์ จ.เชียงใหม่ เกษตร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ คณะกรรมการ อ.พ.ก.จังหวัด ผู้แทนเทศบาลตำบลแม่สอย ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกลำไย รวมทั้งสิ้นประมาณ 30 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบ สวนลำไยในพื้นที่ ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีลำไยที่ใกล้จะยืนต้นตายกว่า 300 ต้น ในพื้นที่ 15 ไร่ และเริ่มเหี่ยวเฉาเพราะอากาศร้อนและขาดน้ำ อีกประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตชลประทาน โดยในพื้นที่มีการใช้น้ำ 2 ลักษณะ คือ สถานีสูบน้ำบ้านใหม่สารภี และการสูบน้ำบาดาล แต่เนื่องจากสถานีสูบน้ำบ้านใหม่สารภีก่อสร้างมานานแล้ว จึงมีประสิทธิภาพลดลง ประกอบกับมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกลำไยมากขึ้น จึงส่งผลให้กระแสไฟฟ้าที่ใช้เพื่อสูบน้ำบาดาลไม่เพียงพอ เนื่องจากหม้อแปลงมีขนาดเล็ก และมีผู้ใช้จำนวนมาก รวมทั้ง แหล่งน้ำในพื้นที่ คือ อ่างเก็บน้ำห้วยขาหมาหลวง ที่มีความจุ 440,000 ลบ.ม. ปัจจุบันเหลือน้ำเพียง 10% ของความจุอ่าง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก ทั้งยังมีตะกอนในอ่างจำนวนมาก ส่งผลให้ลำใยขาดน้ำ ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ตามต้องการ เกิดความเสียหาย และขาดทุน ต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูก เบื้องต้นกรมชลประทานจึงดำเนินการเข้าช่วยเหลือระยะเร่งด่วน โดยส่งเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าเข้าพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ สามารถใช้ไฟฟ้าเพื่อสูบน้ำเข้าแปลงลำไย รวมทั้งแปลงที่กำลังยืนต้นตาย และขอความร่วมมือจากการไฟฟ้าเขตพื้นที่จอมทองเข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือด้านกระแสไฟฟ้าอย่างถาวร นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังมีแผนการดำเนินการแก้ไขระยะยาว โดยให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบยื่นขอโครงการฯ จำนวน 2 โครงการ คือ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านใหม่สารภี 3 และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าหนองบัว 1 พร้อมดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยขาหมาหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกัก และโครงการสูบน้ำด้วยแสงอาทิตย์ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน