พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทยมาแต่ทรงพระเยาว์ตราบจนเสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเดินตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จไปยังภูมิภาคต่างๆ ทรงศึกษาเรียนรู้ซึมซับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขปวงชนชาวไทย กระทั่งเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงตั้งพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชดำริ ฟื้นฟูพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสองพระองค์อย่างต่อเนื่อง พสกนิกรปลื้มปีติในหัวใจด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดั่งเมื่อครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร โดยเสด็จสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนีไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ เป็นภาพที่ปวงชนชาวไทยคุ้นตาเสมอมา และเมื่อทรงทราบด้วยพระเนตรพระกรรณถึงความเดือดร้อนของราษฎรจะพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อบรรเทาทุกข์เดือดร้อนราษฎรให้ผ่อนคลายลงไป หลากหลายโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงมุ่งมั่นจะช่วยเหลือราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนโดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมซึ่งมักประสบปัญหาด้านแหล่งน้ำ ทรงให้ความสำคัญดังเช่นโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ตามพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2545 สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรมากกว่า 3.4 ล้านคน พระราชทานโครงการทางด้านการเกษตรต้นแบบที่ได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ในพื้นที่บ้านกองแหะ หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งแยงอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์แล้วพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยได้ประจักษ์แก่อาณาประชาราษฎร์ โดยทรงให้มีการติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ ให้บังเกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดกับพสกนิกรในทั่วทุกภูมิภาค อาทิ โครงการก่อสร้างแก้มลิงห้วยใหญ่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านห้วยแหน ขุดสระเก็บน้ำ หมู่ที่ 4 และขุดลอกคลอง หมู่ที่ 14 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 มีนาคม 2560 โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำซำตมขาวพร้อมท่อส่งน้ำบ้านห้วยหมากหล่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี 27 มีนาคม 2560 โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ยะพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก 25 เมษายน 2560 เป็นต้น ในห้วงเดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือนมกราคม 2560 ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ใน 10 กว่าจังหวัดภาคใต้ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน พระองค์ทรงติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด ด้วยทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของราษฎร ได้พระราชทานลายพระหัตถ์ถึงประชาชนทุกคนว่า “ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนา เพื่อขวัญที่ดี จิตใจ และร่างกายที่เข้มแข็ง นำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ” ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยประชาชน ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพื่อรับพระราชทานเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 12 จังหวัด อาทิ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา จำนวน 40 ล้านบาท เป็นรายได้จากการจำหน่ายบัตรอวยพรและไดอารี่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ ที่ประชาชนให้ความสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก ทรงเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด อ.เมืองยะลา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ พระมหากรุณาธิคุณแผ่ไพศาลชาวกรุงเทพฯ ปริมณฑลและทั่วทุกภูมิภาค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการโครงการ “หน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา เราทำดี ด้วยหัวใจ” ด้วยทรงมุ่งหวังให้ประชาชนคนไทยรวมพลังรักสามัคคีมีจิตอาสาเสียสละประโยชน์ส่วนตัวมุ่งให้ประโยชน์เกิดแก่ส่วนรวม โดยรวมพลังสามัคคีขุดลอกคูคลองต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีความตื้นเขิน เก็บขยะมูลฝอยที่กีดขวางทางระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อันขยายผลไปทั่วทุกภูมิภาคพัฒนาพื้นที่ให้สะอาดลดมลพิษ จิตอาสาทุกคนจะได้รับสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ บัตรประจำตัวจิตอาสาสีฟ้า ผลพวงแห่งพระมหากรุณาธิคุณวันนี้ประชาชนคนไทยรวมพลังสามัคคีจิตอาสา เราทำดี ด้วยหัวใจอย่างต่อเนื่องเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระราชหฤทัยห่วงใยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้แผ่ไพศาลถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า อย่างเช่นทีมฟุตบอลเยาวชนในจังหวัดเชียงรายพลัดหลงเข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทรงติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ ทรงมีความห่วงใย ได้พระราชทานสิ่งของต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน และมีพระราชกระแสรับสั่งถึงการปฏิบัติงานช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิต พระราชดำรัส ความตอนหนึ่งว่า น่าชื่นชมยินดียิ่งนัก ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกคนทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การบริหารจัดการที่ดี การใช้ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญ ให้พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ การปฏิบัติตนและปฏิบัติการอย่างรอบคอบ มีวินัย มีสติ ตลอดจนการรู้หน้าที่ของตน และปฏิบัติหน้าที่ให้ประสานส่งเสริมกับทุกคนทุกฝ่ายโดยเต็มกำลังเป็นเครื่องมืออย่างสำคัญ ที่จะสามารถนำไปใช้แก้ไขอุปสรรคปัญหา รวมทั้งพัฒนาบ้านเมืองของเราได้ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกันนั้น เป็นพลังยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกยั่งยืนตลอดไป