วันที่ 8 พ.ค.62 เวลา 15.00 น. ที่ สภ.สบปราบ จว.ลำปาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) / ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รรท.ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.อ.จิราวัฒน์ จุฬากุล รอง ผบ.กกล.รส.จว.ลำปาง, นายสมเกียรติ ตันตระกูล รอง ผวจ.ลำปาง , พ.ต.อ.สุเทพ ฐาปนวรกุล รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พ.ต.อ.อภิรักษ์ นักไร่ ผกก.สภ.สบปราบ จว.ลำปาง , นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอสบปราบ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง ยาบ้าน้ำหนักประมาณ 497 กิโลกรัม( ประมาณ 5 ล้านเม็ด) , ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม , เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม รถยนต์ 2 คัน โดยจับกุมเมื่อวันที่ 7 พ.ค.62 เวลาประมาณ 11.30 น. ที่บริเวณระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 641 - 642 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จว.ลำปาง ดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พล.ต.ต.ภาณุเดช กล่าวว่า จากกรณีการสืบสวนหาข่าวของ ศอ.ปส.ภ.5 และ ศอ.ปส.ภ.จว.ลำปาง ทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ จว.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ภาคกลางตอนใน โดยใช้ยานพาหนะรถยนต์ ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน สาย เชียงราย – กรุงเทพฯ จึงได้สั่งการให้ด่านตรวจในพื้นที่ทุกจุด เข้มงวด ตรวจสอบรถยนต์ตามที่สืบทราบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2562 เวลาประมาณ 12.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน ได้รับการประสานจาก สภ.แม่พริก ให้สกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยี่ห้อ อีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว ป้ายทะเบียน กจ 4262 เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกตรวจสอบและไล่ติดตามรถคันดังกล่าวอย่างกระชั้นชิด มาจนถึงหลัก กม.ที่ 641-642 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จว.ลำปาง จึงได้ส่งสัญญาณ ให้หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด ได้เร่งเครื่องแซงทางด้านขวา เพื่อบังคับให้หยุด ได้ยินเสียงยางรถระเบิดพร้อมกับรถคันดังกล่าวได้หยุดรถ มีนายพรเทพ ฉิมมา (ทราบชื่อภายหลัง) จึงเปิดประตูรถฝั่งคนขับและวิ่งหนีเข้าป่าฝั่งตรงข้ามไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบ น.ส.สุนทรี ฯ (ทราบชื่อภายหลัง) ยืนอยู่ข้างรถด้านซ้ายคนขับ และได้มีไฟลุกไหม้จากภายในตัวเก๋งรถคันดังกล่าว พร้อมจับกุม น.ส.สุนทรี และช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถจนดับสนิท พบว่า ตัวรถยนต์เสียหายทั้งคัน ตรวจสอบที่นั่งด้านหลังคนขับ พบเบาะหลังถูกถอดออกหมด และพบยาเสพติดที่เหลือจากการถูกเผา รวมสิ่งห่อหุ้ม จำนวน 49 ถุง น้ำหนักประมาณ 497 กก. วัตถุคล้าย ยาไอซ์ รวมสิ่งห่อหุ้ม จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 15 กก. และ วัตถุคล้าย เฮโรอีน รวมสิ่งห่อหุ้ม จำนวน 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 1 กก. จึงตรวจยึดเป็นของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.ต.ภาณุเดช กช่าวอีกว่า การปฏิบัติการภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ /รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ , พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3/ผอ.ศป.ปส.ทภ.3 , นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. , พล.ต.วิชิต วงค์สังข์ ผบ.กกล.ผาเมือง, พล.ต.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ.ศป.ปส.ชน., พล.ต.สุรคล ท้วมเสม ผบ.กกล.รส.จว.ลำปาง , นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง , นายสมเกียรติ ตันตระกูล รองผู้ว่าฯ ร่วมบูรณาการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน สถานศึกษา โรงงาน และสถานประกอบการ โดยให้ดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ และข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการบูรณาการการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด และเปิดปฏิบัติการขุดรากถอนโคนยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยโดยเร็ว พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันสอดส่องเฝ้าระวังตรวจสอบรถยนต์ของขบวนการลำเลียงยาเสพติด ที่หลบเลี่ยงด่านตรวจฯ เข้าไปยังพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ชุมชนต่างๆ ขอให้ประชาชนที่พบเห็น ได้กรุณาแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 , สายด่วน 191 , Line@inthanon1 (ผบช.ภ.5) และ แอปพลิเคชั่น Police I Lert U ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ปฏิบัติการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้อย่างแบบขุดรากถอนโคน เป็นการช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ และเพื่อให้สังคมไทยมีความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรมอย่างยั่งยืน