โดย"เต้ยเป๋าตุง"... ย้อนกลับไปนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึก "ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก" เมื่อปี 2005 คู่ระหว่าง "หงส์แดง-ลิเวอร์พูล" กับ "ปีศาจแดงดำ-เอซีมิลาน" ที่สนามกีฬาอตาเติร์ก ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เป็นเกมส์การแข่งขันที่มีเหตุการณ์ "ดราม่า" เกิดขึ้นมากมาย โดยก่อนจบการแข่งขันครึ่งแรก บรรดาแฟนหงส์แดงต่างทำใจเพราะทีมรักถูกนำไปก่อนถึง 3-0 พอเริ่มครึ่งหลังเพียง 9 นาที พลพรรค "เรดแมตชีน" เดินเครื่องบุกแหลกจนสามารถได้ประตูตีเสมอจากกัปตันทีมอย่าง "สตีเว่น เจอร์ราด" ที่โหม่งลูกเปิดของ "ยอร์น อาร์น ริเซ่" เข้าไป ต่อมาอีก 2 นาที ลิเวอร์พูลได้ประตูจากลูกยิงไกลสุดสวยของ "ซิมิเซอร์" และอีก 4 นาทีต่อมา "สตีเว่น เจอร์ราด" ถูกทำฟาล์วในเขตโทษโดย "กัสตูโซ่" และผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ และเป็น "ชาบี อลอนโซ่" ที่สังหารพลาด แต่สามารถซ้ำเข้าไปได้ ลิเวอร์พูลสามารถตีเสมอ 3-3 ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 6 นาทีเท่านั้น ก่อนที่กรรมการจะยกนกหวีดเป่าจบการแข่งขัน ต้องต่อเวลาพิเศษ และไม่สามารถทำอะไรกันได้ กระทั่งไปตัดสินชี้ชะตาในการดวลจุดโทษ และเป็นลิเวอร์พูลที่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 5 มาครอบครองไว้ได้อย่าง "ปาฏิหาริย์" ที่อิสตันบูล และในค่ำคืนนี้ที่ "แอนฟิลด์" แม้ไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศ แต่เป็นเกมส์เลกสอง ที่ทัพหงส์แดงต้องการชัยชนะอย่างน้อย 3 ประตู เพื่อโอกาสที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้ หลังจากที่เลกแรกบุกไปแพ้ให้กับยอดทีมจากแดนกระทิงดุ อย่าง "บาร์เซโรน่า" ถึง 3 -0 นับว่าเป็นเรื่องยากที่ต้องยิงประตูให้ได้ถึง 4 ลูก แถมยังห้ามโดนยิงประตูด้วย ในขณะที่ทีมยังต้องโดนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เพราะ 2 สุดยอดดาวยิงของทีมอย่าง "โรแบร์โต เฟอร์มิโน" กับ "โมฮาเหม็ด ซาลาห์" หมดสิทธิ์ลงช่วยทีมแน่นอนแล้ว เพราะยังไม่หายเจ็บ ข้ามมาดูทีมเยือน "บาร์เซโรน่า" ที่ประกาศจะใช้ชุดใหญ่ลงสนามในคืนนี้ โดย"เอร์เนสโต บัลเบร์เด" กุนซือทีมบาร์เซโลนา ระบุ จะเปลี่ยนตำแหน่งเดียวในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 2 ที่จะบุกไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ คืนนี้ คือ "อาเธอร์" ลงเล่นแทน "อาร์ตูโร วิดัล" นอกจากนั้นจะใช้ชุดเดิมทั้งหมด ค่ำคืนนี้บรรดา "เดอะค๊อป" คงได้แต่ภาวนาให้ "ปาฏิหาริย์" เกิดอีกครั้งที่ "แอนฟิลด์"...!