“อุเทน” ตอก กรธ.เขียนรัฐธรรมนูญเลอะเทอะ ทำป่วนตั้งแต่เริ่มใช้ ปล่อยองค์กรอิสระใช้ดุลพินิจวุ่น เตือน กกต.อย่าแกล้งโง่ ประเคนที่นั่ง ส.ส.ให้พรรค 3.1 หมื่นแต้ม แต่ทิ้งเศษของพรรคอื่นที่มากกว่า เชื่อ “ประยุทธ์” ชวดนายกฯ วันที่ 7 พ.ย.62 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเกี่ยวกับการขัดกันของรัฐธรรมนูญ กับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับเลือกตั้งว่า เป็นไปตามที่ตนเคยกล่าวเตือนในหลายวาระตั้งแต่กระบวนการกระบวนการร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่อยู่ในชั้น คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตลอดจนรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกต่างๆมีผลบังคับใช้ว่ามีหลายประเด็นในรัฐธรรมนูญที่ขัดกับบทบัญญัติมาตราอื่นในรัฐธรรมนูญเอง รวมไปถึง พ.ร.ป.หรือกฎหมายลูก ส่งผลให้ไม่ทันไรก็มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความชี้ขาดแล้ว อย่างไรก็ตามตนเป็นห่วงว่าการให้อำนาจกับหน่วยงานที่ขึ้นชื่อว่าองค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ที่อยู่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติ หรือสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกของประชาชน ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน และที่มาก็ไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่กลับมีอำนาจเหนือกว่าและสามารถชี้เป็นชี้ตาย ส.ส.- ส.ว. ได้ นายอุเทน กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับที่ขณะนี้หลายฝ่ายมีความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ใช้เพียงดุลพินิจในการยับยั้งคนที่ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกมาได้ ดังนั้นการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งระบบเขต และแบบบัญชีรายชื่อที่จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ค.นี้จึงมีความสำคัญมากว่าผลการประกาศของ กกต.จะค้านสายตาและความรู้สึกของประชาชนและผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่มีกระแสข่าวว่า พรรคที่ได้คะแนนเสียงทั่วประเทศเพียง 3.1 หมื่นคะแนนก็จะได้ที่นั่ง ส.ส.ด้วย ทั้งที่ค่าเฉลี่ยในการคำนวณ ส.ส.พึงมีอยู่ที่ 7.1 หมื่นคะแนนต่อ 1 ที่นั่ง จึงไม่สมเหตุสมผลที่จะให้พรรคที่ได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยได้ที่นั่ง ส.ส. อีกทั้งเมื่อคำนวณแล้วเศษที่เหลือของบางพรรคการเมืองยังมีมากกว่า 3.1 หมื่นคะแนนด้วย ดังนั้นเท่ากับว่า กกต.จะทำให้คะแนนในส่วนนี้สูญเปล่าไป “กกต.อย่าแกล้งโง่ ที่ตีความว่า ทุกคะแนนไม่สูญเปล่า ไม่ตกน้ำ โดยอ้างเจตนาของ กรธ.ให้พรรคที่มีคะแนนไม่ถึง ค่าเฉลี่ย ส.ส ต่อ 1 คน ได้ ส.ส 1 คน แต่พรรคที่มีเศษเกินค่าเฉลี่ย ส.ส ที่ได้มาแล้ว คะแนน กลับสูญหาย ขออนุญาต เน้นเตือนอีกครั้งว่า อย่าแกล้งโง่ ระวังจะทำผิด ติดคุกเมื่อแก่” นายอุเทน ระบุ นายอุเทนกล่าวด้วยว่า เหตุที่ทำให้การทำงานขององค์กรอิสระ เริ่มทำให้เกิดข้อขัดแย้งนั้นก็มาจากหลักคิดที่ผิดพลาดของ กรธ.ที่กำหนดให้อบค์กรอิสระใช้ดุลพินิจในการชี้ขาดเรื่องต่างๆ ตรงนี้ทำลายระบบการถ่วงดุลระหว่าง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ โดยการนำองค์กรอิสระมาเป็นอำนาจที่ 4 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ กรธ.ให้ความสำคัญมาก และเขียนแยกศาลรัฐธรรมนูญเป็นหมวดหนึ่งของรัฐธรรมนูญ 2560 นอกจากนี้บทบัญญัติหลายประการทั้งในรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.นั้น ยังขัดกับหลักการขอบเขตแห่งการใช้อำนาจของประชาชน ตามแนวคิดของ นายจอห์น ล็อก (John Locke) นักปรัชญาชาวอังกฤษ ที่ได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์สาระ ระบุว่า 1. การบัญญัติกฎหมาย ต้องให้มีมาตรฐานเดียว โดยประชาชนทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และ 2. กฎหมายที่ออกมาต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม นายอุเทน กล่าวด้วยว่า ตนได้เคยแถลงไว้เมื่อวันที่ 21 ก.ย.60 ถึงอนาคตการเมืองไทยหลังจากการเลือกตั้งว่า นายกฯจะมาจากบุคคลที่นักการเมืองเลือก และไม่ได้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ก็เริ่มมีกระแสในทำนองนี้หนาหูมากขึ้น จึงขอให้ติดตามว่าจะเป็นไปอย่างที่ตนเคยได้ทำนายไว้หรือไม่.