วันที่ 6 พ.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่ นายไพวัลย์ แซ่ลี้ ฆ่าตัวตายในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยทิ้งจดหมายไว้ในที่เกิดเหตุ บรรยายว่าได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย คดียักยอกทรัพย์ แต่คดีไม่คืบหน้าและกล่าวหาว่าพนักงานสอบสวนเรียกรับเงินทำคดี 5,000 บาท ประเด็นแรกเกี่ยวกับคดียักยอกทรัพย์ ตามที่นายไพวัลย์ ผู้เสียหายร้องทุกข์ที่ สน.โชคชัย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำพยานและออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนที่ยังไม่มาพนักงานสอบสวนจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับ ตามขั้นตอนของกฎหมาย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นต่อมาตามที่นายไพวัลย์ ผู้ตายได้ทิ้งจดหมาย และมีข้อความบรรยายกล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์นั้น พล.ต ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องแล้ว และให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว โดยหากผลการตรวจสอบพบว่ามีข้อบกพร่องหรือการกระทำความผิดก็จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ตามกฎหมายต่อไป พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่าได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือ ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุกแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเรียกรับผลประโยชน์ในทางคดี ก็พิจารณาความบกพร่องทั้งทางวินัยและการดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของผู้บังคับบัญชาที่ไม่กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะถูกพี่นาโทษด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน