สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านแห่งบรูไนทรงประกาศว่า การประหารชีวิตด้วยการปาหินสำหรับความผิดฐานมีเพศสัมพันธ์เกย์และคบชู้จะไม่ถูกบังคับใช้หลังเจอกระแสต่อต้านจากทั่วโลก แต่ในวันนี้ (6) นักวิจารณ์รียกร้องให้ละทิ้งกฎหมายชารีอะห์อันเข้มงวดนี้ทั้งหมด ในคำปราศรัยเมื่อค่ำวานนี้ (5) สมเด็จพระราชาธิปดีสุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ตรัสว่า การระงับโทษประหารที่มีผลกับประมงกฎหมายอาญาทั่วไปของบรูไนจะครอบคลุมถึงประมวลกฎหมายชารีอะชุดใหม่ซึ่งรวมถึงการประหารชีวิตด้วยการปาหินจากความผิดต่างๆ ด้วย ประมวลกฎหมายชารีอะซึ่งจะลงโทษโจรลักขโมยด้วยการตัดมือตัดเท้าด้วย มีผลเต็มรูปแบบเมื่อเดือนที่แล้วในประเทศสุลต่านเล็กๆ แห่งนี้บนเกาะบอร์เนียว ทำให้มันเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้กฎหมายชารีอะทั่วประเทศ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับหลายรัฐบาลและกลุ่มสิทธิ องค์การสหประชาชาติระบุว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิมนายชนอย่างชัดเจน และผู้สื่อชื่อเสียงหลายคนที่นำโดยนักแสดง จอร์จ คลูนีย์ เรียกร้องให้คว่ำบาตรโรงแรมในเครือของบรูไน ในคำปราศรัยถ่ายทอดสด สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ทรงแสดงความเห็นของพระองค์เกี่ยวกับประเด็นร้อนนี้เป็นครั้งแรกและทรงตรัสถึงเสียงวิจารณ์ว่า “มีคำถามและความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับกฎหมายชารีอะ “ทั้งกฎหมายธรรมดาและกฎหมายชารีอะต่างมีจุดประสงค์เพื่อรักษาความสงบและความสามัคคีของประเทศ” พระองค์ ทรงยืนกราน อ้างจากคำแปลพระราชดำรัสอย่างเป็นทางการ อาชญากรรมบางอย่างในบรูไนรวมถึงการฆาตกรรมและค้ายาถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิตแบบแขวนคออยู่แล้วภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาทั่วไป ซึ่งบังคับใช้ควบคู่ประมวลกฎหมายชารีอะ แต่ไม่ได้มีใครถูกประหารชีวิตมาหลายสิบปีแล้ว สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ตรัสว่า “เรามีการระงับโทษประหารสำหรับคดีภายใต้กฎหมายทั่วไป”“นี่ก็จะมีผลกับคดีภายใต้ประมวลกฎหมายชารีอะซึ่งมีขอบเขตการผ่อนคลายมากกว่าด้วย”