กรมราชทัณฑ์ เร่งคัดกรองชื่อเข้าเงื่อนไขพ.ร.ฎ.อภัยโทษ พร้อมทยอยปล่อยภายใน 120 วัน ส่วน 6 แกนนำพธม.เข้าข่าย เว้น “สนธิ” ส่วน”บุญทรง-ธาริต” มีแววได้ลดโทษ 3 พ.ค. 2562 กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีราชกิจจานุเบกษา ประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษทุกเรือนจำ143 แห่งทั่วประเทศ พ.ศ. 2562 เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น ทางกรมราชทัณฑ์จะเร่งคัดกรองรายชื่อที่คุณสมบัติเข้าเงื่อนไข พ.ร.ฎ.อภัยโทษผู้ต้องขังทั่วประเทศ เพื่อคัดแยกให้ชัดเจนว่า นักโทษที่จะได้รับการปล่อยตัวมีจำนวนเท่าไหร่ และได้ลดโทษตามชั้นต่างๆเป็นจำนวนเท่าใด โดยจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนหรือ 120 วัน ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบจะดำเนินการอย่างอย่างรัดกุม โดยมีกรรมการ 3 ฝ่าย คือ ผู้พิพากษา, อัยการ และผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบรายชื่อว่ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขหรือไม่เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จจึงจะส่งรายชื่อให้ศาลออกหมายปล่อย และต้องทยอยปล่อยเป็นรุ่นๆ สำหรับการพระราชทานอภัยโทษให้ผู้ต้องขังถือเป็นโบราณราชประเพณีในวโรกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา โดยกรมราชทัณฑ์จะจัดพิธีปล่อยตัวพร้อมกับจัดกิจกรรมให้ผู้ที่ได้รับพระทานอภัยโทษแสดงความจงรักภักดีด้วย อย่างไรก็ตามในพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้มีบัญชีลักษณะความผิดแนบท้ายที่เป็นคดีหลักและนโยบายสำคัญซึ่งผู้ต้องขัง เช่น หากเป็นคดีค้ามนุษย์, ค้ายาเสพติด, คดีอุกฉกรรจ์, สะเทือนขวัญ ,ทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้, การฮั้วประมูล จะได้ประโยชน์น้อยกว่าผู้ต้องขังคดี อื่น เช่น หากเป็นผู้ต้องขังอายุ เกิน 60 ปีเหลือโทษไม่เกิน 3 ปี แต่ถ้าติดเงื่อนไขในคดีแนบท้ายก็จะไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่จะเปลี่ยนเป็นลดวันต้องโทษตามสัดส่วนบางส่วน เว้นแต่เมื่อลดโทษแล้วไม่เหลือเวลาต้องโทษก็ต้องปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ต้องขังที่จะได้รับพระราชอภัยโทษประมาณ 40,000-50,000 คน โดยคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551อยู่ในข่ายได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำเช่นกัน ซึ่งในคดีนี้ศาลได้พิพากษาจำคุกผู้ต้องขัง 5 ราย ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 83 ปี, นายพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี เป็นเวลา 8 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 กพ.ที่ผ่านมา ยกเว้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งแม้จะมีอายุเกิน 70 ปี แต่เนื่องจากต้องโทษหลายคดีและมีคดีที่เข้าเงื่อนไขบัญชีแนบท้ายคดีเกี่ยวกับความผิดตลาดหลักทรัพย์จึงไม่อยู่ในข่ายได้รับการปล่อยตัว ขณะที่คดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากต้องโทษจำคุก และยังติดเงื่อนไขต้องโทษในคดีทุจริตปฎิบัติหน้าที่มิชอบ และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อายุยังไม่ถึง 60 ปี อีกทั้งยังต้องโทษหลายคดี อาจได้ลดวันต้องโทษ