เรียบร้อยไปแล้วกับการแถลงเซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม “คอนซาโด ซัปโปโร” แบบยืมตัว 1 ฤดูกาลครึ่ง ซึ่งมีการแถลงข่าว และเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นความฝันของ “ชนาธิป” ที่ต้องการไปค้าแข้งในลีกอาชีพของญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ที่นักเตะไทย จะได้ไปเปิดตลาดในลีกเบอร์ 1 ของเอเชียอย่าง “เจลีก” จากงานแถลงข่าวเปิดตัว “เมสซี่เจ” บอกถึงสิ่งที่ต้องปรับตัว นอกจากจะต้องเจอกับสภาพอากาศที่หนาวแล้ว หลักๆ คือเรื่องของระเบียบวินัย เพราะที่ญี่ปุ่นเน้นเรื่องนี้มากกว่าที่เมืองไทย ที่จะทำตัวสบายๆ และอีกเรื่องคือเรื่องของความเป็นมืออาชีพที่ต้องมีมากขึ้น เอาจริงๆ แค่เรื่องอากาศหนาวก็น่าห่วงแล้วว่า “แข้งจิ๋วจอมเลื้อย” ของไทย จะสามารถเอาชนะ และโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนตอนอยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือไม่ การย้ายถิ่นฐาน ถือเป็นเรืองปกติในโลกของฟุตบอล ทว่า มันคือเรื่องแปลกของฟุตบอลไทยใน ที่ส่วนมาก นักเตะอาชีพ มักจะเลือกเล่นอยู่แต่ใน “ไทยลีก” ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่คุ้นกับการต้องไปไกลบ้าน หรือไปต่างเมือง หรืออาจเป็นเพราะ มองจากอดีต นักเตะไทยที่มีโอกาสไปเล่นในลีกที่แข็งแกร่งกว่าไทยลีก มักไม่ประสบความสำเร็จกลับมา หรืออาจต้องไปเป็นตัวสำรองเท่านั้น ทำให้นักเตะไทยรุ่นใหม่ไม่ค่อยกล้าคิดที่จะออกไปเล่นลีกต่างแดน แต่ไม่ใช่กับชายที่ชื่อ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ ร่างจิ๋วจากเมืองนครปฐม ที่มุ่งมั่น และตั้งใจที่จะเดินไปบนถนนสายลูกหนังอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาการก้าวมาเป็นนักเตะเบอร์ต้นๆ ของประเทศ พร้อมกับเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติ ก็ถือเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมแล้ว การตัดสินใจก้าวออกไปเล่นให้กับ “ซัปโปโร” แม้จะเป็นทีมน้องใหม่ของ “เจลีก” แต่แน่นอนว่าประสบการณ์สำหรับการลงเล่นที่ “เจลีก” ย่อมมีมากกว่าเดิม การเดินทางของ ยอดกองกลางทีมชาติไทย ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ขอให้ “เจ” ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ อย่างน้อยแฟนบอลไทยต้องตามเชียร์ และให้กำลังใจแน่นอน “เมสซี่เจ” กับการค้าแข้งที่ “เจลีก” ให้กับ “ซัปโปโร” คือเรื่องที่น่ายินดี