เปรี้ยงปร้างตูมตามในยุทธจักรการเมืองสหรัฐอเมริกาไม่บันเบา สำหรับ การประกาศตัวเข้าสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 ของ “นายโจ ไบเดน” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็จะไม่สร้างความฮือฮาได้อย่างไร เมื่อนายไบเดนผู้นี้ เคยมีตำแหน่งเป็นถึง “รองประธานาธิบดีสองสมัยซ้อน” หรือ “8 ปีเต็ม” ในยุคที่ “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา” แห่ง “พรรคเดโมแครต” ครองเมือง นายโจ ไบเดน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี สมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐฯ โดยการประกาศที่เพิ่งผ่านพ้นไปหนนี้ “อดีตรองประธานาธิบดีไบเดน” ซึ่งปัจจุบันอายุอานามก็ปาเข้าไป 76 ปีแล้ว ก็ขอที่จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในฐานะ “ตัวแทนพรรคเดโมแครต” ที่เขาสังกัดอยู่ นายโจ ไบเดน กับในบางอิริยาบถชวนขบขันภายในทำเนียบขาว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดูเหมือนว่า การประกาศตนข้างต้น ก็ได้รับการ “ขานรับ” จาก “อเมริกันชนพลพรรคเดโมแครต” หาน้อยไม่ เพราะจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือโพลล์ ต่อกลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และกลุ่มตัวอย่างที่ระบุว่า มีแนวโน้มว่าจะกาบัตรลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเดโมแครต โดยสำนักโพลล์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น “สถาบันสำรวจความคิดเห็นแห่งมหาวิทยาลัยมอนเมาธ์” หรือ “มอนเมาธ์โพลล์” และ “อิปซอสโพลล์” รวมถึง “เรียลเคลียร์โพลิทิกส์โพลล์” เป็นอาทิ ก็ปรากฏว่า ได้พบคะแนนนิยมของอดีตรองประธานาธิบดีไบเดน เหนือกว่าบรรดาผู้ประกาศตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งคนอื่นๆ ของเดโมแครต กันแทบจะถ้วนหน้า ซึ่งตามจำนวนของผู้ประกาศตัวลงชิงชัยของพรรคเดโมแครต ณ เวลานี้ ก็มีจำนวนที่ 19 คน ด้วยกัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง “เบอร์นี แซนเดอร์ส” วุฒิสมาชิก หรือสมาชิกสภาซีเนตแห่งรัฐเวอร์มอนต์ นักการเมืองสายสังคมนิยมคนดัง ซึ่งได้ส่งสัญญาณประกาศตัวว่าจะชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 กันไปก่อนหน้า ก็ยังมีคะแนนนิยมเป็นรองต่อนายไบเดน นายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกแห่งรัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐฯ โดยตัวเลของการสำรวจจาก “มอนเมาธ์โพลล์” ระบุว่า “อดีตรองประธานาธิบดีไบเดน” มีคะแนนนิยม ณ ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ27 หรือคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ส่วน “วุฒิสมาชิกแซนเดอร์ส” นักการเมืองสายโซเชียลิสต์ หรือสังคมนิยมรายนี้ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 20 หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ขณะที่ การสำรวจของ “อิปซอสโพลล์” ร่วมกับ “สำนักข่าวรอยเตอร์ส” ผลปรากฏว่า นายไบเดน ก็ยังมีคะแนนนิยมนำหน้าเหนือกว่าคนอื่นๆ เช่นกัน โดยมีตัวเลขที่ร้อยละ 24 เหนือกว่านายแซนเดอร์ส ซึ่งจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ระดับกระดูกขัดมัน ที่ได้ร้อยละ 15 เรียกว่า ล้ำหน้าไปถึง 9 จุด เช่นเดียวกับ การสำรวจของสำนักโพลล์อื่นๆ เช่น “เรียลเคลียร์โพลิทิกส์” หรือที่มักเรียกกันสั้นๆ ว่า “อาร์ซีพีโพลล์” ปรากฏว่า นายไบเดน ก็ยังเหนือกว่านายแซนเดอร์สในแทบทุกพื้นที่เช่นกัน โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 7 – 9 จุด โดยที่มีช่องว่างห่างกันแคบที่สุด ได้แก่ รัฐไอโอวา ที่นายไบเดนนำหน้า 4 จุด มีเพียงรัฐเวอร์มอนต์ ที่นายแซนเดอร์สเป็นเจ้าถิ่นเท่านั้น ที่เขาชนะนายไบเดน แต่ก็ไม่มากนัก เพียง 2.5 จุด เท่านั้น ด้วยตัวเลขของคะแนนนิยมที่ออกมาข้างต้น ก็ถึงกับทำให้นายแพทริค เมอร์เรย์ ผอ.ของสถาบันมอนเมาธ์โพลล์ เอ่ยปากบอกว่า นายไบเดน สตาร์ทออกตัวได้ดีเลยทีเดียว นอกจากกับพลพรรคเดโมแครตด้วยกันเองแล้ว กับคู่แข่งพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามอย่าง “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน” ปรากฏว่า “อดีตรองประธานาธิบดีไบเดน” ก็ยังมีคะแนนนิยมเหนือกว่าด้วยเช่นกัน นำหน้าไปถึง 8 จุด สำหรับ สถานการณ์ของกระแสคะแนนนิยม ณ ชั่วโมงนี้ โดยคะแนนนิยมที่สำรวจได้ ทางนายไบเดน อยู่ที่ร้อยละ 42 นำหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ร้อยละ 34 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงตัวเลขที่ดังกล่าว ทางทีมงานผู้สำรวจโพลล์ ระบุว่า เหมือนเมื่อปี 2555 ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งพรรคเดโมแครต นำหน้าเหนือนายมิตต์ รอมนีย์ คู่แข่งคนสำคัญจากพรรครีพับลิกัน ในลักษณะนี้เช่นกัน ยิ่งเมื่อแยกย่อยในรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง ปรากฏว่า นายไบเดน มีคะแนนนิยมเหนือประธานาธิบดีทรัมป์แทบจะทุกกลุ่ม เช่น ผู้มีสิทธิลงคะแนนแบบอิสระ ยังไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดที่ 10 จุด ในกลุ่มตัวอย่างสุภาพสตรีที่ 17 จุด และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนรุ่นที่เกิดในช่วงสหัสวรรษ ซึ่งปัจจุบันก็อายุราวๆ 18 – 19 ปี อันถือว่าเป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ก็นำหน้าถึง 22 จุด อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่านายไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้าอยู่ ณ เวลานี้ แต่การสัประยุทธ์ในสมรภูมิเลือกตั้งประธานาธิบดียังต้องใช้ระยะเวลาอยู่อีกหลายเพลา ซึ่งกว่าจะถึงช่วงเดือน พ.ย. 2020 (พ.ศ. 2563) สถานการณ์อาจพลิกผัน เหมือนอย่างที่หญิงเหล็กอย่าง “ฮิลลารี คลินตัน” ต้องประสบกับความพ่ายแพ้แบบสุดช้ำกันมาแล้ว