พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงตกเป็นร่องพาดผ่านพายุฤดูร้อน พัดถล่มบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายอีกระลอก ล่าสุดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ หนักสุดที่อำเภอห้วยผึ้ง สำรวจเบื้องต้นได้รับความเสียหายอย่างน้อยกว่า 80 หลังคาเรือน ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการเร่งช่วยเหลือ ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาเตือนภายใน 2 วันนี้จะเกิดเหตุพายุฤดูร้อนในช่วงบ่ายและค่ำ เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุลูกเห็บ ลมแรง และอันตรายจากฟ้าผ่า
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ต่อเนื่องถึงช่วงกลางคืนของวันที่ 26 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อน และมีลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง และ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ครอบคลุมหลายตำบล ซึ่งความแรงของพายุฤดูร้อนที่กระโชกแรงและมีลักษณะพัดหมุน ได้พัดอาคารบ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน และมีสถานที่ราชการ รวมทั้งสถานศึกษาเสียหาย โดยพัดพาหลังคาสังกะสี ผนังบ้านปลิวหายไปทั้งแถบ นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ และเสาไฟฟ้าถูกกระแสลมแรงพัดหักไปหลายสิบต้น
นายจีระศักดิ์ ขันธสิกรรม อายุ 41 ปี ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดเข้ามาในชุมชน สภาพอากาศในช่วงกลางวันร้อนมาก ซึ่งร้อนติดต่อกันมาหลายวันตลอดเดือนเมษายน จากนั้นสังเกตเห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงและมีก้อนเมฆสีดำตั้งเค้าขึ้นทางทิศตะวันตก ก่อนจะเคลื่อนมาเข้ามาปกคลุมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่มีกระแสลมกระโชกอย่างรุนแรง โดยมีลูกเห็บตกหล่นลงมาด้วย
นายจีระศักดิ์กล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดพายุนั้น ตนและชาวบ้านต่างตกใจ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าลมพายุฤดูร้อนที่พัดลูกเห็บและสายฝนลงมา จะพัดรุนแรงขนาดนั้น จนเรือนทั้งหลังสั่นคลอน ได้แต่รีบเก็บข้าวของที่สำคัญ เพราะกลัวจะได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันก็มองเห็นหลังคาสังกะสีเพื่อนบ้านหลายหลังถูกแรงลมพัดปลิวว่อน ขณะที่บางหลังที่มุงกระเบื้องก็แตกหลุดร่วงเป็นแถบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่เห็นกับตา และเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก โดยพายุฤดูร้อนพัดอยู่ประมาณ 20 นาทีจึงค่อยสงบลง
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ และ พล.ต.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอที่เกิดเหตุ และหน่วยทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ประสานฝ่ายปกครอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองท้องถิ่น และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน และเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัย เช่น เก็บกู้ความเสียหาย ขนย้ายข้าวของ ตั้งเต้นท์ที่พักชั่วคราว บริการและอำนวยความสะดวก รวมทั้งช่วยเหลือด้านซ่อมแซมที่พักอาศัยด้วย
โดยล่าสุดนายไพโรจน์ จิตจักร์ นายอำเภอห้วยผึ้ง นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง นายจรัญ จุนัน ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยผึ้ง นางสาวสัตญา แสงสุวรรณ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขากุฉินารายณ์ ผู้นำชุมชน และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนรักษ์ห้วยผึ้ง หลังละ 1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากกรณีเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ นับเป็นรอบที่ 3 ที่เกิดความเสียหายรุนแรง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ครั้งต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2562 และล่าสุดวันที่ 26 เมษายน 2562 ทั้งนี้สถานีอุตุนิยมวิทยา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 28-29 เมษายน 2562 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ จ.กาฬสินธุ์ ยังจะมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ที่จะส่งผลให้เกิดพายุลมแรง ที่เรียกว่าพายุฤดูร้อนในช่วงค่ำและกลางคืน จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังความเสียหายและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพายุหมุนและฟ้าผ่า ทั้งนี้ หลังวันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป สภาพอากาศก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
/ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ต่อเนื่องถึงช่วงกลางคืนของวันที่ 26 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อน และมีลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง และ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ครอบคลุมหลายตำบล ซึ่งความแรงของพายุฤดูร้อนที่กระโชกแรงและมีลักษณะพัดหมุน ได้พัดอาคารบ้านเรือนของราษฎรได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน และมีสถานที่ราชการ รวมทั้งสถานศึกษาเสียหาย โดยพัดพาหลังคาสังกะสี ผนังบ้านปลิวหายไปทั้งแถบ นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ และเสาไฟฟ้าถูกกระแสลมแรงพัดหักไปหลายสิบต้น
นายจีระศักดิ์ ขันธสิกรรม อายุ 41 ปี ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดเข้ามาในชุมชน สภาพอากาศในช่วงกลางวันร้อนมาก ซึ่งร้อนติดต่อกันมาหลายวันตลอดเดือนเมษายน จากนั้นสังเกตเห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงและมีก้อนเมฆสีดำตั้งเค้าขึ้นทางทิศตะวันตก ก่อนจะเคลื่อนมาเข้ามาปกคลุมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่มีกระแสลมกระโชกอย่างรุนแรง โดยมีลูกเห็บตกหล่นลงมาด้วย
นายจีระศักดิ์กล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดพายุนั้น ตนและชาวบ้านต่างตกใจ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าลมพายุฤดูร้อนที่พัดลูกเห็บและสายฝนลงมา จะพัดรุนแรงขนาดนั้น จนเรือนทั้งหลังสั่นคลอน ได้แต่รีบเก็บข้าวของที่สำคัญ เพราะกลัวจะได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันก็มองเห็นหลังคาสังกะสีเพื่อนบ้านหลายหลังถูกแรงลมพัดปลิวว่อน ขณะที่บางหลังที่มุงกระเบื้องก็แตกหลุดร่วงเป็นแถบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่เห็นกับตา และเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก โดยพายุฤดูร้อนพัดอยู่ประมาณ 20 นาทีจึงค่อยสงบลง
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ และ พล.ต.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอที่เกิดเหตุ และหน่วยทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ประสานฝ่ายปกครอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองท้องถิ่น และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน และเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัย เช่น เก็บกู้ความเสียหาย ขนย้ายข้าวของ ตั้งเต้นท์ที่พักชั่วคราว บริการและอำนวยความสะดวก รวมทั้งช่วยเหลือด้านซ่อมแซมที่พักอาศัยด้วย
โดยล่าสุดนายไพโรจน์ จิตจักร์ นายอำเภอห้วยผึ้ง นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง นายจรัญ จุนัน ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยผึ้ง นางสาวสัตญา แสงสุวรรณ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสาขากุฉินารายณ์ ผู้นำชุมชน และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนรักษ์ห้วยผึ้ง หลังละ 1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากกรณีเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ นับเป็นรอบที่ 3 ที่เกิดความเสียหายรุนแรง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ครั้งต่อมาวันที่ 19 เมษายน 2562 และล่าสุดวันที่ 26 เมษายน 2562 ทั้งนี้สถานีอุตุนิยมวิทยา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 28-29 เมษายน 2562 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ จ.กาฬสินธุ์ ยังจะมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ที่จะส่งผลให้เกิดพายุลมแรง ที่เรียกว่าพายุฤดูร้อนในช่วงค่ำและกลางคืน จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังความเสียหายและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพายุหมุนและฟ้าผ่า ทั้งนี้ หลังวันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป สภาพอากาศก็จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ
/ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์