ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา ถวายพระบังคมพระบรมอัฐิ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามแล้ว ได้เสด็จฯขึ้นหอพระธาตุมณเฑียร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เพื่อถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชบุพการี คือ พระบรมอัฐิพระปฐมบรมมหาชนก (พระราชบิดาในรัชกาลที่ 1) พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 8 พระบรมอัฐิสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี พระอัฐิสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระอัฐิสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และพระอัฐิสมเด็จพระราชบิดา พิธีสมโภช (เฉลิม) พระราชมณเฑียร ในค่ำวันที่ 5 พฤษภาคมนั้น เจ้าพนักงานได้ตั้งบายศรีทอง บายศรีเงิน ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระราชมณเฑียรตามราชประเพณี ซึ่งในค่ำของวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 6 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณไปยังพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ระหว่างทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรยเงินสลึงตลอดทาง มีผู้เชิญเทียนนำกระบวนเสด็จ ซึ่งเท่าที่ทราบผู้ตามเสด็จมี หม่อมเจ้าเฟื่องฉัตร ฉัตรชัย เชิญพระแสงขรรค์ชัยศรี หม่อมราชวงศ์วิมลพะยอม สวัสดิวัฒน์ เชิญพระสุพรรณศรี หม่อมราชวงศ์พวงแก้ว ชุมพล เชิญพานพระโอสถ ที่ห้องพระบรรทม พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฎกุลินี และพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าประดิษฐาสารี ทรงลาดพระที่ และวางเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร ท้าววรคณานันทน์ (ม.ร.ว.แป้น มาลากุล) กราบบังคมทูลทั้งสองพระองค์เสด็จเข้าสู่ห้องบรรทม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับบนพระแท่นลด ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับร่วมกับพระบรมวงศ์ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฎกุลินี ทูลเกล้าฯถวายพระแส้หางช้างเผือก พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าประดิษฐาสารี ทูลเกล้าฯถวายกุญแจทอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับแล้วทรงวางไว้ปลายพระที่นั่งบนพระแท่นใหญ่ แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นใหญ่เอนพระองค์ลงบรรทมเบื้องขวาบนพระที่เป็นพิธี แล้วชาวพนักงานเป่าสังข์ประโคมดนตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้านภาพรประภา กรมหลวงทิพยรัตนกิริฎกุลินี ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพระพรแล้วทรงโปรยดอกพิกุลทอง ดอกพิกุลเงิน พระราชทานเป็นเสร็จการพระราชพิธีการถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2493 ตอนเช้า 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกท้องพระโรงกลางพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อพระราชทานวโรกาสให้ทูตานุทูตเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยมี ฯพณฯ เอกอัครราชทูตอังกฤษในฐานะหัวหน้าคณะทูต อ่านคำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบ แล้วเสด็จขึ้น ตอนเย็นของวันเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังพระบรมมหาราชวัง พระราชทานวโรกาสให้ นายต่วน สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลาม และคณะบุคคลต่างๆทางศาสนา และทำพิธีจำนวน 16 คณะ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เพื่อพระราชทานวโรกาสให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท น้อมเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียน และกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราชและตั้งพระราชาคณะ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชรพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาทให้ประชาชนเฝ้าแล้ว พระองค์ได้เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โปรดเกล้าฯ ให้หลวงบรรเจิดอักษรการอาลักษณ์ อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯประกาศสถาปนาเฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราชจบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งน้ำถวาย พระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราช และทรงประเคนใบกำกับพระสุพรรณบัฏ ไตร ย่าม พนักงานประโคมแตรสังข์ ฆ้องชัย ดุริยางค์ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 3 รูป เพื่อเป็นพระราชสิริสวัสดิ์ และเป็นราชธรรมานุสรณ์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามบูรณราชประเพณี เสกสรร สิทธาคม [email protected]