เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สุรชัย มณีประกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 4/2562 เพื่อติดตามผลการเบิกจ่าย การชำระหนี้ การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้แก่สหกรณ์ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจบริการสมาชิก พร้อมกับเปิดวงเงินสินเชื่อภาคเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ โดยมีนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ตลอดจนคณะอนุกรรมการ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกาสะลอง ชั้น 3 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ดร.สุรชัย มณีประกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จ.พิษณุโลก ได้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเกษตรได้มีนโยบายให้เกษตรกรปรับลดพื้นที่การทำนาปรัง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนมาเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและให้ผลตอบแทนเร็ว เพื่อป้องกันมิให้ผลผลิตได้รับความเสียหายจากปัญหาการขาดแคลนน้ำทำการเกษตร ที่อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และภาระหนี้สินของเกษตรกร ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เพื่อให้สหกรณ์นำเงินกู้ไปให้สมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง นำไปประกอบอาชีพเสริมที่ก่อให้เกิดรายได้ในระยะสั้น หรือ ฟื้นฟูอาชีพหลัก รายละไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 1 ปี และ การกู้ยืมเพื่อนำไปลงทุนเตรียมพื้นที่การเกษตร เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งในระยะยาว เช่น สร้าง หรือ ปรับปรุงระบบกักเก็บน้ำพร้อมอุปกรณ์ การขุดบ่อน้ำในไร่นา หรือ การเจาะบ่อบาดาล สามารถกู้ได้ รายละไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรที่ประสบกับปัญหาภัยพิบัติแล้ง โดยเกษตรกร สมาชิกสามารถแจ้งความประสงค์ขอกู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ผ่านสหกรณ์ต้นสังกัด ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้านนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้แก่สหกรณ์ จำนวน 31,200,000 บาท จำแนกเป็น โครงการพิเศษ จากโครงการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสหกรณ์ ( ปีที่ 3 ) รวม 1 แห่ง จำนวน 2,000,000 บาท ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรถาวรพัฒนาพิษณุโลก จำกัด และ จากโครงการปกติ จำนวน 7 สหกรณ์ จำนวน 29,200,000 บาท ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรถาวรพัฒนาพิษณุโลก จำกัด สหกรณ์ผู้ใช้น้ำงิ้วงาม จำกัด สหกรณ์ผู้ใช้น้ำแหลมโพธิ์ จำกัด สหกรณ์การเกษตรนิคม ฯ บางระกำ จำกัด สหกรณ์การเกษตรจุลินทรีย์เมืองพรหมพิษณุโลก จำกัด สหกรณ์ผู้ใช้น้ำสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านวัดจันทร์ตะวันออก จำกัด และ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรสมาชิกให้มีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป.