จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคเวลานี้ จึงทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านราคา และการสร้างความน่าสนใจ ขณะที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ ทั้งต้นทุนที่สูง และการรักษามาตรฐานความนิยมเอาไว้ ส่งผลให้ ธุรกิจร้านอาหารไม่อาจหยุดนิ่ง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการสร้างหลักสูตรใหม่ของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดสุ ิต ในปัจจุบัน
สร้างคุณภาพสถาบัน
ทั้งนี้ นาย อังเดร เจ คอยน์โทร ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ของชั้น 17-19 อาคารเซนเวิลด์ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเซนทรัล เวิลด์ถนนราชดําริ สร้างด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เป็นโรงเรียนสอนทําอาหารที่ครบครันและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค และคอร์สการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจรรุ่นใหม่ ดึงศักยภาพมุ่งสร้างเชฟชั้นนำ ที่มาพร้อมทักษะการบริหารจัดการ
โดย เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แห่งใหม่ ได้คงจุดเด่นของโรงเรียนเอาไว้ ทั้งในเรื่องของการตกแต่งโรงเรียน การวางแผนผังห้องเรียนและห้องปฏิบัติการครัว อีกทั้งความแตกต่างที่สําคัญ คือ สิ่งอํานวยความสะดวก และ อุปกรณ์อันทันสมัยที่การันตีได้ว่า นักเรียนทุกคนจะได้เริ่มต้นเส้นทางในอาชีพทำอาหารด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งนอกจากมีสภาพแวดล้อมที่สวยงามแล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังคงเน้นย้ำ และให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในด้านการศึกษา และการฝึกอบรมการทำอาหารอีกด้วย
ซึ่ง นาย คอยน์โทร กล่าวว่า คุณภาพของเชฟผู้สอนเป็นสิ่งที่สร้างคุณภาพของสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอทุกแห่งทั่วโลก โดยทุกคนล้วนเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ และมุ่งมั่นถ่ายทอดเทคนิคการทำอาหารชั้นสูง เพื่อให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จบนเส้นทางการก้าวขึ้นมาเป็นเชฟมืออาชีพ อีกทั้งเวลานี้ยังขยายโปรแกรมการจัดการด้านอาหารขั้นสูง หรือ the Advanced Culinary Management Programme เพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทําอาหาร ให้นักเรียนมีทักษะที่จําเป็นในการพัฒนา และดำเนินธุรกิจของตัวเอง เพราะในอุตสาหกรรมอาหารธุรกิจใหม่จำนวนกว่า 60% ปิดตัวลงหลังจากปีแรก และ 80% ต้องปิดลงภายใน 5 ปี
สำหรับโปรแกรมการจัดการด้านอาหารขั้นสูง ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตนเอง โดยในประเทศไทยนั้น ธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่าประมาณ 415,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารที่น่าสนใจ ระบุว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าเป็นพนักงานขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยพฤติกรรมนี้ได้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจอาหาร ดังจะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-25 ปีมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับเทรนด์การเรียนทำอาหารของคนยุคปัจจุบันที่เป็นอีกเทรนด์สำคัญของโลกจากปัจจัยการหันมาดูแลสุขภาพ จึงทำให้เกิดความนิยมในอาหารโฮมเมด อาหารคลีน เป็นต้น
แข่งขันกันอย่างรุนแรง
ขณะที่ นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิตอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทย ในปี 2562 จะยิ่งทวีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจ ที่ยังความไม่แน่นอน ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจเท่านั้น จึงจะยืนหยัดอยู่ได้ภายใต้ สถานการณ์การแข่งขันดังกล่าว โดยประเภทร้านอาหารของไทยที่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจ ที่มักอยู่บนห้างสรรพสินค้า กับสแตนอโลน ที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ต่างมีการแข่งขันแตกต่างกันออกไปและมีวิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างออกไปด้วย
ทั้งนี้ปัญหาที่มักพบในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จ หรือนำไปสู่การปิดกิจการ คือ การควบคุมต้นทุน การรักษารสชาติ และการบริการที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ดังนั้นหลักสูตรที่จัดทำขึ้น เป็นการเสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การวิเคราะห์ และวางแผนธุรกิจร้านอาหาร การวางคอนเซ็ปต์ เมนู การสร้างแบรนด์ และการตลาด การควบคุมต้นทุน ควบคู่ไปกับการฝึกฝนด้านการจัดการครัวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักสูตรนี้ยังได้เปิดสอนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ปารีส และลอนดอน ด้วย
ด้านนางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า นอกจากการเปิดหลักสูตรใหม่แล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังปรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศผ่านเอกลักษณ์ของอาหารไทยซึ่งเป็นอีกหนึ่งแผนธุรกิจที่สำคัญของปี 2562 โดยปีนี้ได้ตั้งเป้า เพิ่มสัดส่วนนักเรียนต่างประเทศจาก 20% เป็น 30% ภายในปี2563 โดยเฉพาะนักเรียนในกลุ่ม AEC ซึ่งจะใช้ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และค่าครองชีพที่มีราคาถูกกว่าประเทศอื่น ๆ
ซึ่ง นาย คอยน์โทร กล่าวว่า คุณภาพของเชฟผู้สอนเป็นสิ่งที่สร้างคุณภาพของสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอทุกแห่งทั่วโลก โดยทุกคนล้วนเป็นเชฟที่มีประสบการณ์ และมุ่งมั่นถ่ายทอดเทคนิคการทำอาหารชั้นสูง เพื่อให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จบนเส้นทางการก้าวขึ้นมาเป็นเชฟมืออาชีพ อีกทั้งเวลานี้ยังขยายโปรแกรมการจัดการด้านอาหารขั้นสูง หรือ the Advanced Culinary Management Programme เพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทําอาหาร ให้นักเรียนมีทักษะที่จําเป็นในการพัฒนา และดำเนินธุรกิจของตัวเอง เพราะในอุตสาหกรรมอาหารธุรกิจใหม่จำนวนกว่า 60% ปิดตัวลงหลังจากปีแรก และ 80% ต้องปิดลงภายใน 5 ปี
สำหรับโปรแกรมการจัดการด้านอาหารขั้นสูง ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตนเอง โดยในประเทศไทยนั้น ธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่าประมาณ 415,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารที่น่าสนใจ ระบุว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าเป็นพนักงานขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยพฤติกรรมนี้ได้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจอาหาร ดังจะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-25 ปีมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับเทรนด์การเรียนทำอาหารของคนยุคปัจจุบันที่เป็นอีกเทรนด์สำคัญของโลกจากปัจจัยการหันมาดูแลสุขภาพ จึงทำให้เกิดความนิยมในอาหารโฮมเมด อาหารคลีน เป็นต้น
แข่งขันกันอย่างรุนแรง
ขณะที่ นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิตอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทย ในปี 2562 จะยิ่งทวีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจ ที่ยังความไม่แน่นอน ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจเท่านั้น จึงจะยืนหยัดอยู่ได้ภายใต้ สถานการณ์การแข่งขันดังกล่าว โดยประเภทร้านอาหารของไทยที่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจ ที่มักอยู่บนห้างสรรพสินค้า กับสแตนอโลน ที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ต่างมีการแข่งขันแตกต่างกันออกไปและมีวิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างออกไปด้วย
ทั้งนี้ปัญหาที่มักพบในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จ หรือนำไปสู่การปิดกิจการ คือ การควบคุมต้นทุน การรักษารสชาติ และการบริการที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ดังนั้นหลักสูตรที่จัดทำขึ้น เป็นการเสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การวิเคราะห์ และวางแผนธุรกิจร้านอาหาร การวางคอนเซ็ปต์ เมนู การสร้างแบรนด์ และการตลาด การควบคุมต้นทุน ควบคู่ไปกับการฝึกฝนด้านการจัดการครัวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักสูตรนี้ยังได้เปิดสอนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ปารีส และลอนดอน ด้วย
ด้านนางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า นอกจากการเปิดหลักสูตรใหม่แล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังปรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศผ่านเอกลักษณ์ของอาหารไทยซึ่งเป็นอีกหนึ่งแผนธุรกิจที่สำคัญของปี 2562 โดยปีนี้ได้ตั้งเป้า เพิ่มสัดส่วนนักเรียนต่างประเทศจาก 20% เป็น 30% ภายในปี2563 โดยเฉพาะนักเรียนในกลุ่ม AEC ซึ่งจะใช้ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และค่าครองชีพที่มีราคาถูกกว่าประเทศอื่น ๆ