เมื่อ“ตลก”ถูกยกเป็น“ปธน.”

ปิดฉาก “ราชาช็อกโกแลต (Chocolate King)” มหาเศรษฐีขนมลูกกวาด เพราะมิอาจได้ไปต่อ ในฐานะ “ประธานาธิบดียูเครน” อีกสมัย ต้อง “ส่งไม้ต่อ” ให้กับ “ดาวตลก” ที่ผกพลิกผันเข้าสู่ถนนการเมือง ในแบบ “ช็อกโลก” ของเหล่าบรรดาคอการเมืองระหว่างประเทศระดับฮาร์ดคอร์ สำหรับ “เปโตร โปโรเชนโก” ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้แก่ “โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี” ดาราตลก นักแสดง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวยูเครน ที่เบนเข็มเข้าสู่แวดวงการเมือง จนประสบความสำเร็จอย่งดียิ่ง ณ ชั่วโมงนี้ โดยนายเซเลนสกี พลิกกระแสความนิยม ให้กลายเป็นคะแนน จนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน ทั้งสองรอบ สองยก เหนือนายโปโรเชนโก เจ้าของตำแหน่งประธานาธิบดีคนเดิม ยกแรกแห่งสัประยุทธ์ มีขึ้นเมื่อช่วงสิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ก็คว้าคะแนนไปตุนเป็นประเดิมอย่างเบาะๆ ก่อนที่ร้อยละ 30.4 ส่วนนายโปโรเชนโก เจ้าของตำแหน่ง วัย 53 ปี ได้เพียงร้อยละ 17.8 เท่านั้น ว่ากันว่า ยกแรก ที่พ่ายยับอย่างมากมายขนาดนั้น ก็ทำเอามหาเศรษฐีขนมลูกกวาด จนได้รับว่า “ราชาช็อกโกแลต” นั้น ออกอาการ “ช็อก” กันไปเลย ขณะที่ การชิงชัยในยกสอง หรือรอบสอง มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ปรากฎว่า นายโปโรเชนโกพ่ายยับเยินหนักกว่าเก่า แบบตั้งแต่ประกาศผลเอ็กซิตโพลล์กันเลยทีเดียว โดยได้คะแนนไปเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ส่วนดาวตลกวัย 41 ปี ได้คะแนนไปถึงร้อยละ 73 เรียกว่า ชนะกันอย่างถล่มทะลาย ทิ้งห่างกันอย่างไม่เห็นฝุ่น เหตุปัจจัยที่ทำให้ “ราชาช็อกโกแลต” ต้องแพ้พ่ายอย่างย่อยยับ ก็มาจากตัวของนายโปโรเชนโกเอง ที่ตลอดระยะเวลา 5 ปี บนเก้าอี้ประธานาธิบดียูเครน ประสบความล้มเหลวในการบริหารปกครองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านเศรษฐกิจ อันถือเป็นปัญหาปากท้อง และเงินในกระเป๋าของประชาชนโดยตรง ปรากฏว่า สอบตกอย่างไม่เป็นท่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ที่เป็นปมให้กล่าวหาตราบาปแก่เขาด้วย เลยส่งผลให้ประชาชาวยูเครน เกิดกระแสถวิลหา “ของใหม่” ด้วยการหันไปกาบัตรเลือก “นายเซเลนสกี” อย่างชนิดเป็น ปรากฏการณ์แห่งเซเลนสกี” กันเลยทีเดียวเชียว แม้ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งรายนี้ จะ “หน้าใหม่” ในแวดวงการเมืองของยูเครนก็ตามที อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า ต้องยกนิ้วให้กับทีมงานด้านยุทธศาสตร์ของนายเซเลนสกีด้วยเหมือนกัน ที่สามารถพลิกกระแสความนิยมของดาวตลกผู้นี้ ให้เป็น “คะแนนเลือกตั้ง” อย่างเป็นรูปธรรม ถึงฝั่งฝันความเป็นจริง กล่าวกันในเสียงกระซิบ กอสซิปในยูเครน ก็ว่ากันว่า กระแสคะแนนนิยมที่จะให้นายเซเลนสกี มาเล่นการเมือง แบบถึงขั้นให้มาเป็นผู้นำของพวกเขานั้น ก็เริ่มจากภาพยนตร์ซีรีส์ทางโทรทัศน์ เรื่อง “ข้ารับใช้ของปวงชน (Servant of the people)” ซึ่งนายเซเลนสกี รับบทเป็น “ประธานาธิบดี” ตามท้องเรื่อง ก็เป็นเหตุให้ประชาชาวยูเครน ซึ่งกำลังทุกข์ยากจากพิษภัยเศรษฐกิจตกสะเก็ด รวมถึงเบื่อหน่ายอย่างเหลือหลายต่อประธานาธิบดีโปโรเชนโก ที่ล้มเหลวในการบริหารประเทศ แถมยังมีข้อครหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันอันน่ารังเกียจอีกต่างหาก เกิดกระแสความต้องการให้นายเซเลนสกี เป็นประธานาธิบดีของพวกเขาในชีวิตจริง ทำให้กลายเป็นแรงผลักดันให้นายเซเลนสกี พลิกผันชีวิตจากโลกมายา ถลาสู่ถนนการเมือง ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยขอ “เปิดหน้า” สู้กับนายโปโรเชนโก เจ้าของตำแหน่งประธานาธิบดีเดิม ที่หมายมั่นปั้นมือว่า จะขอนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย ต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี โดยว่ากันตามสถานการณ์ ปรากฏว่า คะแนนนิยมของดาวตลกผู้นี้ ก็ “ดีวัน ดีคืน” จนเบียดแซงหน้าประธานาธิบดีโปโรเชนโก ก่อนทิ้งห่างไปอย่างไม่เห็นฝุ่น กระทั่งมาคว้าชัยชนะอย่างถล่มทะลาย อย่างที่ปรากฏในผลการเลือกตั้งที่ออกมา ดับฝันนายโปโรเชนโก ที่จะได้เป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย แต่ทว่า ตามการเปิดเผยของผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตประธานาธิบดียูเครนรายนี้ ก็บอกว่า จะไม่เลิกเล่นการเมืองอย่างแน่นอน โดยจะอยู่บนถนนสายการเมืองนี้ต่อไป ในฐานะฝ่ายค้านที่มีความเข้มแข็ง ที่พร้อมจะเปิดอภิปรายในสภาของยูเครนอย่างแข็งขัน ขณะที่ ในทางซีกฝ่ายของว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของยูเครน ประกาศในอาการของอารามความดีใจว่า จะไม่ทำให้ประชาชาวยูเครนต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ก่อนเผยแผนเบื้องต้นในการจัดการปัญหาความขัดแย้งกับรัสเซีย ซึ่งระอุมานานหลายขวบปีผ่านสงครามกลางเมืองทางภาคตะวันออกของประเทศว่า จะใช้วิธีการเจรจากับรัสเซียเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และจะพยายามดำเนินการให้ชาวยูเครนที่ถูกรัสเซียจับตัวไปนั้น ได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ก็มีบรรดานักวิเคราะห์และประชาชาวยูเครนอีกจำนวนหนึ่ง ยังคงกังขาในเรื่องความสามารถการบริหารประเทศ ที่เขายังไร้ประสบการณ์ ซึ่งการปกครองของจริง แตกต่างจากในภาพยนตร์ซีรีส์ที่เขาแสดงนำอย่างเทียบกันไม่ได้