เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 9 ม.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำลังสั่งการให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. และ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.ภ.7 เร่งรัดทีมพนักงานสอบสวน และทีมสืบสวน ชุดคลี่คลายคดีบุคคลสูญหายในพื้นที่ สน.หนองค้างพลู ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค.59 ที่ผ่านมา โดยแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าบุคคลที่สูญหายดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตแล้ว และผู้บงการน่าจะเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ ผู้กำกับการ โรงพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ บช.ภ.7 โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค. 59 นายบุญชู พลไธสง อาชีพพนักงานในร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หนองต้างพลู ว่า น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 17 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบุตรสาว และทำงานอยู่ในร้านอาหารที่เดียวกันได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดย นายบุญชู ผู้เป็นพ่อเชื่อว่าต้องเกิดเหตุร้ายกับบุตรสาวอย่างแน่นอน เนื่องจาก น.ส.สุภัคสรณ์ นั้นมีลักษณะเป็นทอมบอย หน้าตาดี มีผู้หญิงมาติดพันจำนวนมาก กระทั่ง น.ส.สุภัคสรณ์ ได้ไปรู้จักกับ น.ส.กรรณิกา หรือดาว กรุมรัมย์ อายุ 39 ปี อาชีพนักร้องตามร้านอาหาร พักอยู่หนองแขมคอนโดมิเนียม เลขที่ 4123 ถนนเพชรเกษม ซอย 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. โดย น.ส.สุภัคสรณ์ คบหากับ น.ส.กรรณิกา ได้ระยะหนึ่งจนทราบว่า มีนายตำรวจยศสูงวัยใกล้เกษียณ และเป็นผู้กำกับการโรงพัก แห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี มาติดพันเช่นกัน ทำให้ น.ส.สุภัคสรณ์ ต้องตีตัวออกห่างจาก น.ส.กรรณิกา และมีเรื่องระหองระแหงกันมาสักระยะกระทั่งหายตัวสาปสูญไปไม่มีใครสามารถติดต่อได้อีกเลย หลังรับแจ้งความทางพนักงานสอบสวนได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น จน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ตั้งคณะทำงานฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดีนี้ขึ้นมาเดินหน้าหาเบาะแสข้อเท็จจริงของคดีที่เกิดขึ้นในทางลับ ประกอบด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รรท.ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร รรท.ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.โดยให้ ผบช.น.และ รรท.ผบช.ภ.7 ดำเนินการควบคุม สั่งการ เร่งรัดคดีให้รวดเร็วที่สุดเนื่องจากมีข้อมูลนายตำรวจเข้าไปพัวพันและเร่งพิสูจน์ทราบได้ว่า น.ส.สุภัคสรณ์ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ กระทั่งตอนนี้แนวทางการสืบสวนเริ่มชัดเจนแล้วว่า น.ส.สุภัคสรณ์ น่าจะเสียชีวิต โดยในช่วงเวลาก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พบหลักฐานเชื่อได้ว่า มีทีมผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นคนมีสี จากต้นสังกัดดังแห่งหนึ่งในพื้นที่รับผิดชอบ บช.ภ.7 เดินทางมาอุ้ม น.ส.สุภัคสรณ์ ไปจากที่พักย่านรอยต่อพื้นที่ บก.น.9 กับ บช.ภ.7 จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงดำเนินการแกะรอยความเชื่อมโยงต่างๆ จากการก่อเหตุในครั้งนี้ จนเป็นที่มาของการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายตำรวจยศพันตำรวจเอก เป้าหมาย ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้ทางชุดคลี่คลายคดีจะดำเนินการขออนุมัติหมายจับ เพื่อเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งขบวนการนี้ต่อไป.