เหยื่อบึ้มอีสเตอร์เลือดศรีลังกา 6 จุด ตายพุ่งเกือบ 300 ศพ ด้านตำรวจรวบ 24 ผู้ต้องสงสัย พร้อมเผยผลสอบเบื้องต้นว่า อย่างน้อย 2 จุด เป็นระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ ทัพฟ้าเผยพบ “ไปป์บอมบ์” ใกล้สนามบินนานาชาติโคลัมโบก่อนปลดชนวนได้อย่างระทึก ขณะที่ ทางการยกเลิกเคอร์ฟิวแต่ยังคุมเข้มโซเชียลมีเดีย คืบหน้าเหตุระเบิด 6 จุด โจมตีโบสถ์คริสต์ และโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ในกรุงโคลอมโบ และเมืองบัตติกาลัว ประเทศศรีลังกา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 290 คน และมีจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 560 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บข้างต้น ปรากฏว่า มีชาวต่างชาติหลายสิบคนด้วยกัน รายงานข่าวแจ้งว่า ในการสืบสวน สอบสวนเบื้องต้นพบว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 2 จุด เป็นปฏิบัติการระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มก่อการร้าย ได้แก่ เหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์เซนต์แอนโธนี ที่คนร้ายโจมตีในขณะที่คริสตศาสนิกชนกำลังสวดมนต์ในพิธีมิสซาเนื่องในวันอีสเตอร์ ส่วนอีกแห่ง ได้แก่ เหตุระเบิดที่โรงแรมแชงกรีลาโฮเต็ล โดยคนร้ายก่อเหตุบริเวณกลุ่มคนที่กำลังยืนต่อแถวรับอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ของทางโรงแรมฯ พร้อมกันนี้ รายงานข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจศรีลังกา เปิดเผยว่า ได้จับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องเหตุระเบิดโจมตีที่เกิดขึ้นจำนวน 24 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียด ขณะเดียวกัน มีรายงานโดยการเปิดเผยของ ร.อ.คีหัน เสเนวิรัตเน โฆษกกองทัพอากาศศรีลังกา ที่ระบุว่า ได้พบวัตถุระเบิดเป็นท่อพีวีซี หรือไปป์บอมบ์ ขนาดความยาว 6 ฟุต (1.8 เมตร) บริเวณใกล้กับท่าอากากาศยานนานาชาติบันดารานายเก ในกรุงโคลัมโบ ซึ่งภายในท่อดังกล่าวบรรจุดินระเบิดและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับจุดชนวนเอาไว้ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ปลดชนวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ทางรัฐบาลของประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนะ แห่งศรีลังกา เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือเคอร์ฟิว ไปเมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ หลังประกาศบังคับใช้ไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางการศรีลังกายังคงเข้มงวดในการเข้าถึงเว็บไซต์สังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียของประชาชนภายในประเทศอยู่ เพื่อป้องกันการแพร่สะพัดของข่าวลือที่ไม่พึงประสงค์ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย