“บิ๊กฉัตร”พ้อเป็นทหาร 40 ปีไม่เคยเจอสงครามไหนคนเจ็บ-ตายเท่าช่วงสงกรานต์ ชี้คนไทยขาดจิตสำนึกความปลอดภัย กลายเป็นภัยคุกคามชีวิต จี้สสส.ร่วมมือภาคีเครือข่ายคิดนวัตกรรมลดอุบัติเหตุให้ได้ปี64 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมพิจารณาแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด(สอจร.) ปี 2562-2564 โดยวางเป้าหมายในการสร้าง “จังหวัดถนนปลอดภัย” ให้เกิดขึ้นภายในปี 2564 อย่างน้อย 50% ของจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ เน้นเสริมศักยภาพภาคีเครือข่าย สร้างความร่วมมือให้มีบทบาทเป็นเจ้าภาพในระดับพื้นที่ และทำให้เกิดการแข่งขันกันสร้างจังหวัดถนนปลอดภัย รวมถึงผลักดันให้เป็นวาระระดับอำเภอ และระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดกระแสจังหวัดถนนปลอดภัยกระจายไปยังทั่วประเทศ จากการวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านมาความเข้มข้นด้านกฎหมายของหน่วยงานภาครัฐ ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยระยะแรกขอให้วางเป้าหมายเน้นดำเนินงานในจังหวัดที่เป็นกลุ่มพื้นที่เสี่ยงสูงก่อน เพื่อให้เกิดบทเรียนความสำเร็จของพื้นที่และนำไปสู่การขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ​“ตลอดชีวิตที่ผมรับราชการทหารมากว่า 40 ปี ยังไม่เคยเห็นการรบครั้งไหนที่มีคนเสียชีวิตเท่ากับจำนวนคนเจ็บตายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อุปสรรคสำคัญยิ่ง คือ คนไทยที่ขาดสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน จนกลายเป็นภัยคุกคามของประเทศ พฤติกรรมเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย วัยรุ่นตั้งวงดื่มเหล้าริมถนน แต่งตัวล่อแหลม ยังมีให้เห็นตลอด ซึ่งสะท้อนทัศนคติที่ไม่สนใจความปลอดภัยของตนเองและสังคม ซึ่งผมอยากฝาก สสส.ช่วยคิดหากลไก และนวัตกรรมที่จะเป็นตัวช่วยในการควบคุมความเร็ว หรือแก้ปัญหาจุดเสี่ยงสำคัญในพื้นที่ เช่น หากไม่สวมหมวกนิรภัยจะสตาร์ทรถไม่ติด หรือเกิดมาตรการองค์กร เช่น หากพนักงานไม่สวมหมวกนิรภัยหรือเมาแล้วขับถูกตัดเงินเดือน/โบนัส"พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว รองนายกฯ กล่าวอีกว่า  ทั้งนี้ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อกำหนดกรอบวิธีการ การวัดผล และให้นำมารายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการกองทนฯ ทุกครั้ง รวมทั้งขอให้กระทรวงแรงงานขยายผลแนวทางของสถานประกอบการอื่นมีมาตรการในเรื่องความปลอดภัยทางถนนให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากเป็นไปได้อยากให้ตั้งเป้าการทำงานในระยะสั้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านความปลอดภัยในทางใดทางหนึ่งตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษานี้เป็นต้นไป