( 21เม.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิเดช ริมธีระกุล นายกเทศมนตรีตำบลเจ็ดเสมียน ได้ร่วมกับผู้นำชุมชน ชาวบ้าน จัดงานประเพณีแห่ดอกไม้ท้ายสงกรานต์ ของดีตำบลเจ็ดเสมียน ประจำปี 2562 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ภายในท้องถิ่นอีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน โดยประเพณีดังกล่าวเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษที่มีมายาวนานมากว่า 100 ปี ได้มอบให้ไว้แก่ลูกหลาน ปีนี้ได้ตั้งแนวคิด “บันทึกรักแห่งความทรงจำ” LOVE STORY หมายถึงสิ่งต่างๆในตำบลเจ็ดเสมียนที่มีอยู่ ทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ความดี ความงาม วัฒนธรรมประเพณีล้วนแต่มีความดีงาม ภายในงานยังได้มี การประกวดรถบุปผาชาติประเภทสวยงาม และประเภทความคิดสร้างสรรค์ที่มีชุมชนต่างๆได้ร่วมกันประดับรถยนต์ด้วยดอกไม้จัดขึ้นด้วยความรักความสามัคคีของชาวบ้านในท้องถิ่น
สำหรับในค่ำคืนมีการจัดประกวดนางงอมหัวไชโป๊ว ซึ่งหัวไชโป๊วเป็นสินค้าในท้องถิ่นที่มีการผลิต และจำหน่ายเป็นของดีในตำบลเจ็ดเสมียนที่มีการแปรรูปไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู และเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นานนับปี ค่ำคืนนี้ทางคณะผู้จัดงานจึงได้มีแนวคิดนำคุณป้า คุณยายที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จัดประกวดแข่งขันความงาม ความสามารถกัน เรียกได้ว่าลืมอายุของตัวเองกันเลยทีเดียว ทั้งการแสดงความสามารถ ไหวพริบปฏิภาณ การแต่งกายที่สื่อถึงความเป็นไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีผู้เข้าประกวดนางงอมหัวไชโป๊วก็จะมาในชุดนุ่งโจงกระเบนสีสันสวยงาม แต่ละคนได้แสดงความสามารถพิเศษของตัวเองที่มีอยู่ บางคนก็ถนัดทางด้านร้องรำ ร้องเพลง บางคนก็จะเก่งด้านการพูด โดยผู้ชนะเลิศในค่ำคืนนี้ได้แก่ นางบุญมา ฤทธิ์เดชา ผู้เข้าประกวด หมายเลข 1 จะได้รับรางวัลขันน้ำพานรองดอกไม้นางงอมหัวไชโป๊ว และเงินสดจำนวนหนึ่ง ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางจิติมา เอี่ยมสะอาด หมายเลข 2 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสุธรรมมา ดีแสน ทั้งสองจะได้ขันน้ำพานรองดอกไม้นางงอมหัวไชโป๊วและเงินสดจำนวนหนึ่งประจำปี 2562 ไปครองท่ามกลางลูกหลานญาติมิตรมาร่วมส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นก็เป็นการประกวดธิดาดอกไม้ ปีนี้มีผู้เข้าประกวดจำนวน 14 คน แต่ละคนก็จะมาในชุดที่คณะกรรมการได้กำหนดกติกาว่าจะต้องมีดอกไม้ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้ ทั้งประดับบนเสื้อผ้าและตามร่างกาย โดยสาวงามทุกคนมาในชุดแบบไทยทั้งนุ่งโจงกระเบน ผ้าซิ่นสำเร็จ ถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน ถักร้อยออกมาเป็นมาลัยมาผูกรัดเป็นเข็มขัด สไบ ปิ่นปักผม สร้อยข้อมือ ข้อเท้า ด้วยความประณีต โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกจาก 14 คน ให้เหลือ 8 คน และ 5 คนสุดท้ายเพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้ใช้ปฏิภาณไหวพริบในการตอบปัญหา นอกจากนี้จะดูเรื่องการแต่งกายสวยงามแบบไทยที่งานนี้จะมีรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลมวลชนด้วย โดยผู้เข้าประกวดที่เข้าตาเหยี่ยวข่าวได้รับรางวัลนี้ไป ได้แก่ นางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม โรงพยาบาลเจ็ดเสมียนเป็นผู้ส่งเข้าประกวด ได้รับรางวัลเป็นพัดลมตั้งโต๊ะจำนวน 1 ตัวไปครอง นอกจากนี้ยังมีรางวัลชุดดอกไม้ยอดเยี่ยม ซึ่งนางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม ก็ได้คว้ารางวัลนี้ไปครองอีก เนื่องจากชุดที่เธอสวมใส่ในค่ำคืนนี้เป็นชุดโจงกระเบนที่นุ่งสดเองในผ้าสีชมพู และมีดอกไม้ที่ประดิษฐ์ร้อยรัดเป็นเข็มขัด และตกแต่งประดับอย่างงดงามบริเวณเสื้อผ้า ศีรษะ และข้อมืออย่างงดงามสวยแปลกตากว่าผู้เข้าประกวดคนอื่นๆที่จะนุ่งผ้าซิ่นสำเร็จทำให้ชนะใจกรรมการได้รับรางวัลนี้ไปครอง และด้วยความโดดเด่นด้านการแต่งกาย และยังสามารถใช้ความสามารถพิเศษการรำไทย และการใช้ไหวพริบตอบปัญหาได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้นางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม หมายเลข 2 ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดธิดาดอกไม้ประจำปี 2562 ไปครองในปีนี้ ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัล โดยได้รับรางวัลมงกุฎและสายสะพาย ขันน้ำพานรองดอกไม้พร้อมทั้งเงินสดจำนวนหนึ่ง ส่วนรองรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวนิชาภัทร มีบำรุง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวจินดารัตน์ พลบุญ ทั้งสองจะได้รับรางวัลขันน้ำพานรองดอกไม้และเงินสดจำนวนหนึ่งไปครอง
สำหรับในค่ำคืนมีการจัดประกวดนางงอมหัวไชโป๊ว ซึ่งหัวไชโป๊วเป็นสินค้าในท้องถิ่นที่มีการผลิต และจำหน่ายเป็นของดีในตำบลเจ็ดเสมียนที่มีการแปรรูปไปทำอาหารได้หลากหลายเมนู และเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นานนับปี ค่ำคืนนี้ทางคณะผู้จัดงานจึงได้มีแนวคิดนำคุณป้า คุณยายที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จัดประกวดแข่งขันความงาม ความสามารถกัน เรียกได้ว่าลืมอายุของตัวเองกันเลยทีเดียว ทั้งการแสดงความสามารถ ไหวพริบปฏิภาณ การแต่งกายที่สื่อถึงความเป็นไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีผู้เข้าประกวดนางงอมหัวไชโป๊วก็จะมาในชุดนุ่งโจงกระเบนสีสันสวยงาม แต่ละคนได้แสดงความสามารถพิเศษของตัวเองที่มีอยู่ บางคนก็ถนัดทางด้านร้องรำ ร้องเพลง บางคนก็จะเก่งด้านการพูด โดยผู้ชนะเลิศในค่ำคืนนี้ได้แก่ นางบุญมา ฤทธิ์เดชา ผู้เข้าประกวด หมายเลข 1 จะได้รับรางวัลขันน้ำพานรองดอกไม้นางงอมหัวไชโป๊ว และเงินสดจำนวนหนึ่ง ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางจิติมา เอี่ยมสะอาด หมายเลข 2 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสุธรรมมา ดีแสน ทั้งสองจะได้ขันน้ำพานรองดอกไม้นางงอมหัวไชโป๊วและเงินสดจำนวนหนึ่งประจำปี 2562 ไปครองท่ามกลางลูกหลานญาติมิตรมาร่วมส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นก็เป็นการประกวดธิดาดอกไม้ ปีนี้มีผู้เข้าประกวดจำนวน 14 คน แต่ละคนก็จะมาในชุดที่คณะกรรมการได้กำหนดกติกาว่าจะต้องมีดอกไม้ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้ ทั้งประดับบนเสื้อผ้าและตามร่างกาย โดยสาวงามทุกคนมาในชุดแบบไทยทั้งนุ่งโจงกระเบน ผ้าซิ่นสำเร็จ ถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน ถักร้อยออกมาเป็นมาลัยมาผูกรัดเป็นเข็มขัด สไบ ปิ่นปักผม สร้อยข้อมือ ข้อเท้า ด้วยความประณีต โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกจาก 14 คน ให้เหลือ 8 คน และ 5 คนสุดท้ายเพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้ใช้ปฏิภาณไหวพริบในการตอบปัญหา นอกจากนี้จะดูเรื่องการแต่งกายสวยงามแบบไทยที่งานนี้จะมีรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลมวลชนด้วย โดยผู้เข้าประกวดที่เข้าตาเหยี่ยวข่าวได้รับรางวัลนี้ไป ได้แก่ นางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม โรงพยาบาลเจ็ดเสมียนเป็นผู้ส่งเข้าประกวด ได้รับรางวัลเป็นพัดลมตั้งโต๊ะจำนวน 1 ตัวไปครอง นอกจากนี้ยังมีรางวัลชุดดอกไม้ยอดเยี่ยม ซึ่งนางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม ก็ได้คว้ารางวัลนี้ไปครองอีก เนื่องจากชุดที่เธอสวมใส่ในค่ำคืนนี้เป็นชุดโจงกระเบนที่นุ่งสดเองในผ้าสีชมพู และมีดอกไม้ที่ประดิษฐ์ร้อยรัดเป็นเข็มขัด และตกแต่งประดับอย่างงดงามบริเวณเสื้อผ้า ศีรษะ และข้อมืออย่างงดงามสวยแปลกตากว่าผู้เข้าประกวดคนอื่นๆที่จะนุ่งผ้าซิ่นสำเร็จทำให้ชนะใจกรรมการได้รับรางวัลนี้ไปครอง และด้วยความโดดเด่นด้านการแต่งกาย และยังสามารถใช้ความสามารถพิเศษการรำไทย และการใช้ไหวพริบตอบปัญหาได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้นางสาวปั่ณณพร ใยย้อย หรือน้องข้าวหอม หมายเลข 2 ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดธิดาดอกไม้ประจำปี 2562 ไปครองในปีนี้ ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัล โดยได้รับรางวัลมงกุฎและสายสะพาย ขันน้ำพานรองดอกไม้พร้อมทั้งเงินสดจำนวนหนึ่ง ส่วนรองรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวนิชาภัทร มีบำรุง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวจินดารัตน์ พลบุญ ทั้งสองจะได้รับรางวัลขันน้ำพานรองดอกไม้และเงินสดจำนวนหนึ่งไปครอง