เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งแรกเพื่อลงมติวาระต่างๆ เช่น งบการเงิน รายงานผลการดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมา และแผนการดำเนินการในปีต่อไปตามระเบียบพรรค หลังจากที่ไม่ได้มีการการประชุมพรรคมานานกว่า 5 ปี โดยมีแกนนำ อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายนายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้งของพรรค ตัวแทนภาคแต่ภาคของพรรค ว่าที่ส.ส.และผู้สมัครส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขต และบัญชีรยชื่อ 347 คน รวมถึงอดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังจากยุบพรรคไทยรักษาชาติแล้ว ก็ได้เดินทางมาร่วมประชุมใหญ่ในวันนี้ด้วย โดยพล.ต.ท. วิโรจน์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อรับรองกิจกรรมของพรรคการเมือง ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา ขอขอบคุณผู้สมัครส.ส. ผู้ใหญ่ของพรรค กรรรมการบริหารพรรค เจ้าหน้าที่พรรค ที่ช่วยกันดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งไว้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากอำนาจรัฐ อำนาจเงิน ที่เราต้องเผชิญอยู่ แต่ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ที่เรามีว่าที่ส.ส.จำนวนมากเป็นอันดับ 1 จากนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้กำลังทุกคน แม้เรายังไม่ทราบผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนก็ตาม แต่เวลานี้เราจะต้องตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบ 77 จังหวัด ทั้ง  250 เขตเลือกตั้ง จากเดิมที่เรามีเพียง 50 จังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ก็พร้อมส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต  นอกจากนี้การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นปัญหาและอุปสรรคและผลการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น เราได้ประสานงานกับองค์กรหน่วยงานอื่น ทั้งเอ็นจีโอ ภาคประชาชนที่สังเกตการณ์เลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ในมือของฝ่ายประชาชนที่เราทราบมีตัวเลขหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 8 หมื่นหน่วย แต่เรายังต้องการให้รัฐบาล และกกต. ประกาศหน่วยเลือกตั้งให้ชัดเจน เพราะเมื่อลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีหลายพื้นที่มากยังเป็นปัญหา เช่น ที่ จ.ชัยนาท พบว่าในใบส.ส.5/18  ปรากฎการกรอกรายละเอียดในใบดังกล่าว ควรจะเป็นลายมือคนละลายมือแต่ปรากฏว่าในใบส.ส.5/18 เป็นการกรอกด้วยลายมือของคนๆ เดียวทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อที่สงสัยว่าเมื่อไปกรอกที่หน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วย ทำไมจึงเป็นลายมือเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าเป็นกระบวนการที่มากรอกข้อมูล ฉะนั้นสิ่งที่จะดำเนินการได้ หากมีการประกาศข้อมูลดิบของแต่ละพื้นที่ ถ้าทุกคนมีดังกล่าวนี้ หรือมีรูปถ่ายที่ถ่ายจากหน้าบอร์ดในหน่วยเลือกตั้งไว้ จะนำมาพิสูจน์ทราบได้ชัดเจนว่า คะแนนที่เขียนที่ไว้ที่บอร์ดกับคะแนนที่กกต. เป็นคะแนนจริงที่ตรงกันหรือไม่ “เราพบอีกว่าบางเขตเลือกตั้ง คะแนนตัวเลขจริง สมมุติว่าอยู่ประมาณ 60 แต่เวลาไปเขียนอยู่ในคะแนนมีการบวกเพิ่มเติมไป 70-80 เปอร์เซ็นต์สำหรับคะแนนพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคเรา จึงทำให้คะแนนของเราหายไป ฉะนั้นกระบวนการที่เกิดขึ้นขณะนี้มีความซับซ้อนมากไปกว่าเดิม เป็นขบวนการที่ดำเนินการโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง” นายภูมิธรรม กล่าว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวทักทายนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกดันเป็นหัวหน้าพรรคแทน พล.ต.ท.วิโรจน์ นั้น นายสมพงษ์ ส่ายหน้าแรงพร้อมหัวเราะ ก่อนบอกว่า “ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง”  อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้จะมีการเปิดให้ว่าที่ส.ส.ที่ยังไม่ได้ลงปฏิญญาเพื่อสืบทอดเจตนารมย์ต่อต้านเผด็จการมาลงนามเพิ่มเติมให้ครบด้วย