เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา เข้าจับกุม นายไชยยุทธ แสงเครือ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 379 หมู่ 11 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายสหรัฐ สินธวรัตน์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/444 หมู่ 2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนายปริญญา บุญนก อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 7 ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ของกลางประกอบด้วย รถยนต์ 2 คัน เงินสด 77,250 บาท สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 6 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมขณะที่ทั้ง 3 คน เข้าทวงหนี้นอกระบบ บริเวณบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยมีชาวบ้านแจ้งเบาะแส ว่า มีกลุ่มบุคคลอย่างน้อย 7 กลุ่ม เข้าทวงหนี้นอกระบบในพื้นที่ โดยมีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้าน และเรียกเก็บดอกเบี้ยรายวัน เกินกว่าอัตรากฎหมายที่กำหนด พร้อมนำตัวเข้าบันทึกการจับกุมที่ ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา ภายในศาลากลางจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา จากนั้นได้นำส่งพนักงานสวบสวน สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ นายชาญศักดิ์ ถวิล รองผวจ.พังงา พร้อมด้วย น.อ.อภิชาติ วรภมร รองผอ.รักษาความมั่นคงภายในจังหวัด พ.ต.อ.ประเทือง ศรีละมนตรี ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มบุคคลทวงหนี้นอกระบบ ซึ่งระบุว่า จากการสืบทราบพบว่ากลุ่มที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในครั้งนี้ มีพฤติกรรมทวงหนี้นอกระบบในพื้นที่ดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว แต่หลบพ้นการจับกลุ่มทุกครั้ง ทำให้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนและปล่อยให้บุคคลทวงหนี้รายเล็กจากไปก่อน จึงสามารถจับกลุ่มบุคคลที่เข้าทวงหนี้รายใหญ่ได้ พบว่าลูกหนี้บางรายต้องจ่ายวันละ 8,000 บาท ต่ำสุด 1,000 บาท ต่อวัน เท่าที่ตรวจสอบบัญชีธนาคารยิ่งน่าตกใจมีการโอนเงินในบัญชีครั้งเดียวถึง 1.8 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารจำนวนมาก จึงขอแจ้งว่าหากประชาชนรายใดที่มีปัญหาเรื่องเงินกู้ให้แจ้งปรึกษาเจ้าหน้าที่ หรือสามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมในพื้นที่แต่ละอำเภอ