ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ใกล้ถึงช่วงโค้งสุดท้าย ของการลุ้นแชมป์เข้าไปทุกที โดยมี “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ เฝ้าลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากรอคอยมานานกว่า 29 ปี ผงาดเป็นผู้ท้าชิงอย่างเต็มตัวกับแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ซิตี้ ชนิดมันหยุดต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายว่าใครจะเข้าวินคว้าถ้วยมาครอบครอง เช่นเดียวกับการแย่งชิงโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 ทีมที่เหลือ ทั้ง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ”สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ยังมีสิทธิ์ด้วยกันทั้งหมด ในการแย่งชิงเก้าอี้ 2 ตัวสุดท้าย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเดินหน้าคว้าชัยชนะได้สำเร็จในการเตะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมตช์เดย์ล่าสุด “เรือใบสีฟ้า” แชมป์เก่า ได้ลงเล่นนัดที่ 33 บุกไปชนะ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ 3-1 ทำให้มีแต้มเหนือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไปก่อน 1 แต้ม แต่ให้หลัง 3 ชั่วโมงจ่าฝูงกลับมาอยู่ในมือของ “หงส์แดง” อีกครั้ง เมื่อเปิดสนามแอนฟิลด์ เล่นนัดที่ 34 ไล่บดแข้ง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ไปได้อย่างสนุก 2-0 โดย “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” แนวรุกชาวอียิปต์ ตะบันส่องไกลด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดสุดงามหยดเข้าประตู “เจอร์เกน คล็อปป์” กุนซือ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ยังออกปากซูฮกลูกยิงสุดสวยของ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” ว่า “มันทำให้ผมตกตะลึง ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ผมรู้ว่าผมมีความสุขเหลือเกิน เพราะผมอยู่แนวเดียวกับทิศทางเดียวกับบอล บางทีผมอาจเป็นคนแรกที่เห็นว่ามันจะต้องตุงตาข่าย มันเป็นการจบสกอร์ที่สุดยอดมาก” “ตอนนี้เราทำได้ 85 สำหรับ 4 เกมสุดท้าย เราอาจเก็บมากสุด 97 แต้ม ก็ต้องลองดูสิ หากคะแนนเท่านี้มันเพียงพอก็วิเศษมาก หากตรงกันข้าม เราคงทำอะไรไม่ได้” อย่างไรก็ตาม แม้ “เจอร์เกน คล็อปป์” กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลจะออกมาพูดส่งสัญญาณ เล่นลิ้นด้วยการใช้จิตวิทยากับทีมคู่แข่งเท่าใด ก็คงไม่มีผลอะไร เพราะกุนซื่ออย่าง “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” ของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ซิตี ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว คุมทีมใหญ่ๆมาอย่างโชกโชนคงไม่หลงกลง่ายๆ พร้อมยังกำชับลูกทีมว่า ต้องชนะ 5 เกมสุดท้าย เพื่อดับฝัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ให้จงได้ แถมยังเชื่อมั่นอีกว่า พลพรรคของตัวเองมีสภาพจิตใจอันแข็งแกร่ง ต่อสู้แรงกดดันมหาศาลได้อย่างแน่นอน “เราคิดว่า ลิเวอร์พูล จะชนะทุกเกมที่เหลืออยู่ แต่ พรีเมียร์ ลีก ยังอยู่ในมือเรา เราต้องชนะทุกนัด หากเราต้องการเป็นแชมป์ 2 สมัยรวด เราทราบกันดีอยู่แล้ว และนักเตะทุกคนก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขาต้องการทำตามเป้าหมาย ไม่ต้องสงสัยเลย เราลงเล่นทุกๆ เกมด้วยคาแร็คเตอร์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ตอนนี้เราเก็บ 183 แต้ม ตลอด 2 ซีซัน นับเป็นสถิติที่เหลือเชื่อ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า เราคงเส้นคงวาแค่ไหน” อย่างที่เห็นๆกัน ว่าการปะทะคารมของ2กุนซือ อาจจะไม่ส่งผลอะไรต่อเกมการแข่งขันที่เหลือ แต่อย่าลืมว่า ผู้เล่นที่อยู่ในสนาม คงต้องแบกรับความกดดันอยู่บ้าง แต่ให้ฟันธงนาทีนี้ บอกได้คำเดียวว่า ตอนนี้ดูเหมือนอะไรๆก็เป็นใจให้กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอของทีม และการที่ “โม ซาลาห์” คืนฟอร์มอย่างถูกที่ ถูกเวลา มาเข้าฝักในช่วงนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฟอร์มรูดดิ่ง ถูกวิจารณ์ยับอย่างไม่ไว้หน้า อดีคดาวซัลโวฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากนี้ หากมาดูที่โปรแกรมการแข่งขันที่เหลือ อีก 4 นัดของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเห็นชัดเจนว่า เป็นงานเบากว่า “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ อยุ่ช่วงตัว โดยวันที่ 21 เม.ย.จะไปเยือน “คาร์ดิฟฟ์” วันที่ 26 เม.ย.จะเปิดรังพบกับ “ฮัดเดอร์สฟิลด์” วันที่ 5 พ.ค. จะออกไปเยือน “นิวคาสเซิล” และนัดส่งท้าย วันที่ 12 พ.ค.จะรัง พบ “วูล์ฟแฮมป์ตัน” ขณะที่โปรแกรมที่เหลือของ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ดูจะยากเย็นกว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลชัดเจน โดย เฉพาะเกมที่ทีม “เรือใบสีฟ้า” ต้องยกพลออกไปเยือน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำศึก “แมนเชสเตอร์ดาร์บี้” ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ ซึ่งรับประกันเลยว่า เกมนัดนี้อาจจะเป็นแมตช์หยุดโลก และชี้ชะตาแชมป์ของ“เป๊ป กวาร์ดิโอลา” กุนซือทีม “เรือใบสีฟ้า” อย่างแน่นอน เพราะหากทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” บุกไปแพ้ “ผีแดง” แล้วละก็ มีสิทธิ์วืดแชมป์สูงมากทีเดียว เรื่องของความยากง่ายของโปรแกรมอาจไม่ใช่เรื่องหลัก เพราะชื่อชั้นและศักยภาพอย่าง “หงส์แดง” และ “เรือใบสีฟ้า” นั้น สามารถชนะได้ในทุกเกมที่เหลือได้อยู่แล้ว แต่นาทีนี้สิ่งสำคัญที่สุดของการลุ้นแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้าย น่าจะขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเล่นได้เข้าฝักและมั่นใจมากกว่ากันมากกว่ากัน และคำถามสำคัญก็คือลูกทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” จะทำได้หรือเปล่า? ว่าจะชนะรวดในทุกเกมที่เหลือ เพราะเท่าที่ดูจากนี้ไป “ลิเวอร์พูล” น่าจะพลาดยากแล้วล่ะ แม้ “ลิเวอร์พูล” ชุดนี้ไม่ได้เป็นทีมที่ดีสุด โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุด แต่เป็น “นักมวย” ที่รู้จักจังหวะต่างหาก ตอนไหนควรเดินสาวหมัด ตอนไหนควรเต้นฟุตเวิร์กล่อหลอก ตอนไหนต้องยกการ์ดมาป้องกัน และตอนไหนต้องเผด็จศึกให้ได้เมื่อคู่แข่งเผลอ