คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ/ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย ถึงแม้ว่าพรรคเดโมแครตจะยังไม่มีแนวโน้มว่าใครคือตัวแทนของพรรคที่จะเข้าไปแข่งขันต่อกรกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนปี 2020 อีกทั้งยังปรากฏอีกด้วยเช่นกันว่า ขณะนี้นักการเมืองของพรรคเดโมแครตต่างทะยอยเข้าแถวเรียงหน้ากระดานประกาศลงสมัครแข่งขันไปแล้วถึง 18 คน และคาดว่าคงจะมีผู้สนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยวันแข่งขันเบื้องต้นเพื่อเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตจะมีขึ้นที่รัฐไอโอวาเป็นรัฐแรกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ปี 2020 และยังปรากฏว่า สส.จอห์น เดลานีย์ อายุ 55 ปี นักการเมืองจากรัฐแมรีแลนด์ ที่ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ประกาศลงแข่งขันล่วงหน้ามาแล้วถึงสองปีครึ่ง และได้รับเงินบริจาคมาแล้วมากกว่า 17 ล้านเหรียญ แถมยังมีบริจาคที่เป็นเงินสดในธนาคารถึงสิบล้านเหรียญ แต่กลับไม่ติดโผหนึ่งในห้าของอันดับยอดนิยม!!! ส่วนผู้ที่กำลังติดอยู่ในอันดับหนึ่งในห้าได้แก่ “วุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอรส์” “วุฒิสมาชิกคามาลา แฮริส” “วุฒิสมาชิกอลิซาเบธ วาร์เรน” “เบโต โอรอร์ค อดีตส.ส.จากรัฐเท็กซัส” และ “พีท บัตติเกิก” พีท บัตติเกิก วัย37 ปี ผู้ที่อยู่ในกลุ่มรักร่วมเพศ และเป็นนักการเมืองของค่ายพรรคเดโมแครตคนล่าสุดที่ได้ประกาศตัวลงแข่งขันในสนามเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 เมษายนนี้ โดยเขาได้รับเลือกให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรี ณ นครเซาท์เบนด์ รัฐอินเดียนาตั้งแต่วัยหนุ่มอายุได้ 29 ปี จบจากฮาร์วาร์ด ออกมาแสดงจุดยืนต้องการยกเลิกการนับคะแนนเลือกประธานาธิบดีแบบ Electoral College อย่างไรก็ตามนักการเมืองที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุดและได้รับคะแนนนิยมมาเป็นอันดับหนึ่งก็คือ “วุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอรส์” วัย 77 ปี ที่ขณะนี้เขากได้กลายเป็นนักการเมืองที่ได้รับยอดเงินบริจาคแล้วกว่า 18 ล้านเหรียญ แถมชีวิตยังปราศจากหนี้สินอีกด้วย!!! อนึ่งขณะนี้จะเห็นได้ว่าคะแนนนิยมของวุฒิสมาชิกเบอร์นี แซนเดอร์ส กำลังมาแรงเป็นอันดับหนึ่ง และได้รับเงินจากผู้บริจาคมากกว่าห้าแสนคน โดยเขาชูนโยบายที่ว่า ต้องการให้อเมริกันชนทุกๆคนมีสวัสดิการด้านสุขภาพ และยังเสนอนโยบายรายได้ขั้นต่ำอย่างน้อย 15 เหรียญต่อชั่วโมง อีกทั้งยังเสนอให้ขึ้นภาษี 77% แก่บรรดาเศรษฐีผู้ที่มียอดทรัพย์สินเกินกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ ทั้งยังปรากฏว่า โดยเฉลี่ยแล้ววุฒิสมาชิกเบอร์นีย์ได้รับเงินบริจาคจากคนระดับล่างที่เข้ามาบริจาครายละไม่เกินสองร้อยเหรียญ มากที่สุดถึง 84% อีกทั้งเขาเป็นนักการเมืองที่ประธานาธิบดีทรัมป์เกรงกลัวฝีปากในการโต้วาทีมากที่สุด!!! สำหรับผู้ที่ได้รับคะแนนนิยมมาเป็นอันดับสองได้แก่ “วุฒิสมาชิกคามาลา แฮริส” วัย 54 ปี โดยเธอเคยดำรงตำแหน่งอัยการ แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะได้รับเลือกให้รับตำแหน่งวุฒิสมาชิก เมื่อสองปีก่อน โดยขณะนี้มีจำนวนผู้บริจาคเงินแล้วกว่า 140,000 คน และเธอยังมีประธานาธิบดีบารัก โอบามารวมไปถึงบรรดาสตรีผิวสีเข้ามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้การสนับสนุนมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเธอเป็นนักการเมืองสตรีผิวสีคนเดียวเท่านั้นที่ถือว่า มีโอกาสจะเข้าสู่ทำเนียบขาวได้ในอนาคต!!! ส่วนผู้ที่เคยได้รับคะแนนนิยมอยู่ในอันดับห้าแต่ขณะนี้มาแรงถีบตัวขึ้นมาจนได้รับคะแนนนิยมสูงเป็นอันดับสามก็คือ “วุฒิสมาชิกอลิซาเบท วาร์เรน” อายุ 69 ปี จากรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเธอเป็นนักการเมืองหญิงที่กล้าประกาศตัวเป็นศัตรูทางการเมืองต่อประธานาธิบดีทรัมป์อย่างโจ่งครึ่ม โดยเธอมีประสบการณ์หลากหลายนอกจากจะเป็นศาสตาจารย์ด้านกฎหมายในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายสถาบัน อาทิ เช่นฮาร์วาร์ด มิชิแกน เพนซิลเวเนีย มหาวิทยาลัยเท็กซัส ฯลฯแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังมีความสามารถทางด้านเขียนหนังสือมาแล้วกว่าสิบเล่ม อีกทั้งเธอยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจสมัยประธานาธิบดีโอบามา โดยขณะนี้เธอมียอดเงินสนับสนุนแล้วกว่าสิบล้านเหรียญ แถมยังปรากฏอีกด้วยว่า เงินบริจาคที่เธอได้รับกว่า 70% ส่วนใหญ่รายละต่ำกว่าสองร้อยเหรียญ เท่ากับว่าเธอได้รับความนิยมสูงจากคนระดับล่างด้วยเช่นกัน!!! สำหรับ “อดีตส.ส.เบโต โอรอร์ค” จากรัฐเท็กซัส วัย 46ปี ดาวรุ่งมาแรงของพรรคเดโมแครตที่ได้สร้างข่าวเกรียวกราวเมื่อเร็วๆนี้จนเกือบจะคว่ำวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซในการแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งวุฒิสมาชิก โดยขณะนี้เขาได้รับเงินบริจาคแล้วกว่าเก้าล้านเหรียญ แม้เขาจะเพิ่งประกาศลงแข่งขันเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ก็ตาม และถึงแม้ว่าเบโต โอรอร์คจะเคยได้รับความนิยมอยู่ในอันดับสามแต่ต้องตกมาอยู่ในอับดับสี่ แต่กลับปรากฏว่าเขาได้รับเงินจากผู้บริจาคมากกว่า 280,000 คน เท่ากับว่าเขามีฐานการเมืองที่กว้างขวางมากเลยทีเดียว!!! ทั้งนี้ยังมีอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดิน ที่ขณะนี้แวดวงการเมืองกำลังจับตามองว่า เมื่อใดเขาจะออกมาประกาศตัวลงสนาม เนื่องจากเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจากทุกๆฝ่ายว่า เป็นนักการเมืองรุ่นลายครามที่มีความเจนจัดในแวดวงการเมืองมากว่า 44 ปี และเขายังมีความเชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศอย่างหาตัวจับยากอีกด้วย!!! สำหรับประเด็นที่ว่า ใครมียอดเงินสดอยู่ในกองทุนหาเสียงมากน้อยเท่าใดนั้น?หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ได้ออกมาเปิดเผยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายนนี้ว่า วุฒิสมาชิกแซนเดอรส์มีเงินสดอยู่ 18.2 ล้านเหรียญ วุฒิสมาชิกคามาลา แฮริสมีเงินสด 12 ล้านเหรียญวุฒิสมาชิกวาร์เรนมีเงินสด 11 ล้านเหรียญ เบโต โอรอร์คมีเงินสุด 6.9 ล้านเหรียญ และพีท บัตติเกิก มียอดเงินสด 6.4 ล้านเหรียญ เนื่องจากเม็ดเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ฉะนั้นนักการเมืองทั้ง 18 คนนี้ ใครจะไปถึงดวงดาวได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตได้ ก็นับว่าแสนจะยากลำบากมากทีเดียว เพราะจะต้องใช้จ่ายเงินสำหรับโปรยหว่านเป็นทั้งค่าบุคลากร ค่าโฆษณา และค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคเดโมแครตกำลังเลือกเฟ้นอย่างหนักหน่วงเพื่อเลือกเฟ้นว่า “นักการเมืองคนใดที่จะมีโอกาสเอาชนะต่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้” กล่าวโดยสรุปเมื่อมองจากภาพรวมแล้วพอจะวิเคราะห์ได้ว่า นักการเมืองของพรรคเดโมแครตคนใดก็ตามที่จะเข้ามาประลองยุทธ์ได้เป็นอย่างดีนั้น นอกจากจะเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืนในสายกลางแล้ว ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับเม็ดเงินบริจาคก้อนใหญ่มากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญขึ้นไป ต้องสามารถจูงใจให้สมาชิกของพรรคเดโมแครตออกไปใช้สิทธิ์เลือกและสนับสนุนตนเองอย่างล้นหลาม และหากพรรคเดโมแครตวางให้ “โจ ไบเดน” อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีและวางให้ “วุฒิสมาชิกคามาลา แฮริส”อยู่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้วละก็ โอกาสที่จะเอาชนะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ละครับ