แนวคิดสุดโต่ง ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา จำเค้ามาครึ่งเดียว!! เปิดตำราเศรษฐศาสตร์101 อยากแข่งขันเสรีแบบสุดซอย สั่งให้รัฐถอย อย่าไปอุ้มคนไทย รู้มั้ยว่า การค้าเสรีเค้าออกแบบมาให้ประเทศที่ได้เปรียบ เปิดกรงทั้งหมด ประเทศที่เจริญมากๆ และประเทศที่มีความได้เปรียบทางการค้าคงยิ้ม เพราะเข้ามาหากินบ้านเราได้เต็มที่ แต่นักวิชาการที่เรียกตัวว่า NGO ยังโชว์พลัง ขยันเติมไฟรายวัน ค้านรัฐใช้ ม.44 ช่วยอุ้มผู้ประกอบการไทยที่กำลังกระอักเลือด ขาดทุนหนัก แต่กลับอยากให้ไทยเปิดประตูการค้าให้เสรี คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด ไม่สำคัญว่าชาติไหนมาแข่งกับพี่ใหญ่ระดับโลกแบบตัวต่อตัว (แต่ไม่ได้บอกนะว่า เป็นมวยรุ่นใหญ่ ชกกับมวยรุ่นจิ๋วอย่างผู้ประกอบการไทย) โดยไม่ใส่ใจว่าใครจะรอด ใครจะตาย พูดแต่เพียงว่า ตายก็ตายไป เดี๋ยวก็มีรายใหม่มาแข่งขัน ต่างจากบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้หรือมาเลเซีย ซึ่งรัฐมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศที่ชัดเจน จึงมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศด้านกลไกตลาด เพื่อคุ้มครองหรือสร้างความได้เปรียบให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศเช่น การควบคุมอัตราค่าจ้างแรงงานหรือการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดต้นทุนในการผลิตของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมในเกาหลีใต้ หรือในกรณีของนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งชาติในมาเลเซีย ทำให้รัฐต้องมีมาตรการกีดกันชิ้นส่วนและรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งนักวิชาการบางกลุ่มบอกรับไม่ได้ ทำไมต้องอุ้มผู้ประกอบการในประเทศ..ทำเอาผู้ประกอบการไทยมองตากันปริบๆ เพราะหลักฐานเห็นชัดอยู่แล้ว ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2015 การประมูลคลื่น 4G ในย่าน 900 MHz เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชน เนื่องจากเกิดการแข่งขันกันในระดับสูงอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนในประเทศไทย ซึ่งในช่วงเวลานั้น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ แสดงจุดยืนชัดเจนอยากให้แข่งขันแบบประมูลราคาสูงสุดชนะ รัฐได้เงินสูงสุด อาจมีบริษัทที่ชนะการประมูล แต่ภายหลังประสบปัญหาในการดำเนินการธุรกิจเช่น ขาดทุน หรือต้องปิดกิจการลงไป ดังตัวอย่างของบางบริษัทในธุรกิจโทรทัศน์ดิจิทัล ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการคาดการณ์ธุรกิจที่ผิดพลาด ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดจากการประมูล ซึ่งผลเห็นได้ชัดในปัจจุบัน ทั้งทีวีดิจิทัลและค่ายมือถือ”ฝ่ามรสุมไม่หยุด ขาดทุนอ่วม“เจ็บแต่ห้ามตาย” ยังคงกลืนเลือด เพียงแค่ขอให้รัฐ ต่อลมหายใจ ขอยืดระยะเวลาชำระค่าใบอนุญาตออกไปถือว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจ และไม่มีใครเสียประโยชน์ แต่คนออกมาค้าน แค่ต่อลมหายใจ ทำไม ดร.สมเกียรติ์ ต้องออกมาบีบท่อออกซิเจน นี่คือสิ่งที่สังคมตั้งคำถาม ตอนประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ทำให้รัฐบาลฟันรายได้เข้ากระเป๋าถึง 5 หมื่นล้านบาท แต่พอพวกเขาลำบาก อย่าทำตัวเป็นคนหน้าเลือด ถ้าหากรัฐบาลไม่ยอมลดหย่อนผ่อนปรน ไม่ยอมช่วยเหลือเยียวยา มุ่งแต่จะเก็บค่าใบอนุญาตตะพึดตะพือเท่ากับรัฐบาลซํ้าเติมให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลและ ค่ายมือถือ จนแบกภาระขาดทุนต่อไปอีกไม่ไหว จนต้องเจ๊งกันระนาว แต่ที่น่าแปลกใจคือ ดร.สมเกียรติ์ ไม่มีทีท่าจะเรียกร้องรายได้จากผู้เล่น Social network เช่น Facebook ,YouTube,Line TV ภาพยนตร์ดูผ่าน Internet ได้โดยไม่ต้องมีกล่องใดๆ และที่สำคัญ Internet TV ได้กลายมาเป็นคู่แข่งกับ Digital TV ที่รัฐเปิดประมูล! แถมไม่ต้องแบ่งรายได้ แต่ ดร.สมเดียรติ์ ไล่เบี้ยเฉพาะบริษัทไทย ทั้งที่บริษัทไทยทั้งดิจิตอลทีวีและค่ามือถือจ่ายภาษีให้ประเทศมหาศาลตลอดเวลาที่ผ่านมา ลองมาดูความเสียหายกัน หากดูผลประกอบการในอดีตจะพบว่ามีถึง 18 ช่อง จาก 15 บริษัทขาดทุน อสมท มี 2 ช่องทีวีดิจิทัล ช่อง 9 และ MCOT Family และกิจการวิทยุและสำนักข่าวไทย มีรายงานขาดทุนรวมทุกธุรกิจสูงถึง 2,541.77 ล้านบาท ช่องพีพีทีวี เป็นช่องที่ขาดทุนสูงที่สุด สูงถึง 2,028.76 ล้านบาท เป็นการขาดทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ประกอบกิจการมา โดยในปี 2559 ขาดทุนอยู่ที่ 1,996.37 ล้านบาท ช่องไทยรัฐทีวีที่ทุ่มทุนกับทีมข่าวอย่างมาก แต่มียอดขาดทุนยังสูงอยู่ที่ 927.55 ล้านบาท เนชั่นทีวีมีรายงานขาดทุนสูงสุดในกลุ่มนี้ โดยขาดทุนสูงถึง 1,127.03 ล้านบาท ตามมาด้วยนิวทีวี ขาดทุน 461.74 ล้านบาท และวอยซ์ทีวี รายงานขาดทุนอยู่ที่ 354.45 ล้านบาท ในขณะที่ค่ายมือถือก็อ่วมหนัก ไทยเราเข้าสู่ 3G ล้าหลังกว่าประเทศอื่น 10 ปี พอเปิดให้บริการ 4G เราล้าหลังกว่าประเทศอื่น 8 ปี ทำให้ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เอกชนต้องเอาเงินลงทุนจำนวนมหาศาลมาลงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเพื่อไล่กวดประเทศอื่นๆที่คุ้มทุนกันมาหมดแล้ว การเปิดบริการ 3G 4G ช้า ทำให้จุดคุ้มทุนของโอเปอเรเตอร์ช้าตามไปด้วย เพราะเพิ่งเปิดมา 2-3 ปีเอง แถมในอดีตมี JAS มาปั่นราคาแล้วทิ้งประมูลทำให้ราคาสูง และ อีกทั้งต้องเตรียมเงินลงทุนเพิ่มเพื่อเข้าประมูล 5G ในขณะที่ของเดิมยังไม่คุ้มทุน ดังนั้นการต่อท่อหายใจ ผ่อนผันให้พักชำระหนี้ค่าใบอนุญาตทีวีเป็นเวลา 3 ปี แต่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลต้องชำระดอกเบี้ย 1.5 ของวงเงิน และลดค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอล ภาคพื้นดิน 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 2 ปี ส่วนในด้านโทรคมนาคมจะได้รับความช่วยเหลือด้วยการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จากเดิมจ่าย 4 งวดเป็น 10 งวด ถือว่ารัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ผู้ชำระภาษี ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต ไม่ใชละเลย ปล่อยให้ตายไปต่อหน้าต่อตา เพียงเพราะคำวิจารณ์ของนักวิชาการไทยหัวใจเสรี ที่ไม่เหลือที่ให้บริษัทไทยได้ทำกิน.