เมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้เปิดกองอำนวยการฯ และประชุมครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่จากนี้กองอำนวยการร่วมฯ จะทำงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อปฏิบัติการที่เกี่ยวของกับพระราชพิธี ทั้งการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งทุกฝ่าย รวมถึง ประชาชนตื่นตัวและมีส่วนร่วมในการกำหนดการพระราชพิธีนี้เบื้องต้น ยังไม่พบการข่าวว่าจะเหตุการณ์ที่จะกระทบพระราชพิธี ทางกองอำนวยการร่วมฯ จะมีตัวแทนจาก 40 หน่วยงาน จะประชุมทุกวันในเวลา 9.00 น. โดยจะมี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สับเปลี่ยนกันเป็นประธานการประชุมและรายงานให้พลเอกประวิตร รับทราบทุกวัน ทุกหน่วยงานจะต้องติดตามข่าวสารข่าวกรอง เกาะติดทุกสถานกาณร์เพื่อปรับแผนการดำเนินงาน แบ่งพื้นที่ในการดูแลเป็น 6 โซน และให้ผู้บัญชาการจากภาคต่างๆ รับผิดชอบตรวจสอบข้มูลในทุกมิติเพื่อทราบข้อมูลในพื้นที่อย่างละเอียด ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติระหว่างผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ด้านความปลอดภัยบริเวณจุดคัดกรองการพิสูจน์บุคคลจะใช้ระบบสแกนใบหน้าเข้าร่วมเชื่อมโยงกับกองอำนวยการร่วมและสาทารถติดต่อได้ตลอดเวลา โดยผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วย ต้องลงไปทำงานอย่างละเอียดในทุกพื้นที่ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติกับเจ้าหน้าที่ทุกนายทำให้สมพระเกียรติและเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ท่าน ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้ตั้งโรงครัวพระราชทานให้กับประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธี ส่วนจิตอาสาจะเริ่มอบรมในวันที่ 22 เมษายน นี้ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ เพราะถือว่า ประชาชนทุกคนเป็นแขกของพระองค์ท่าน ขณะที่ พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการปิดการจราจร ในช่วงการเติมน้ำอภิเษก ในช่วงเช้าของริ้วขบวนจากกระทรวงมหาดไทยถึงวัดสุทัศน์ จำนวน 7 เส้นทาง ในวันนี้มีความเรียบร้อย และในช่วงเย็นจะมีพิธีเสกน้ำอภิเษกที่วัดสุทัศน์ โดยไม่ปิดการจราจร แต่จะอำนวยความสะดวก ส่วนในวันที่ 19 เมษายน จะมีพิธีเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ไปพระบรมมหาราชวังจะปิดช่องทางจราจร 16 เส้นทาง ตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 11.00 น. รวมระยะทาง 1,890 เมตร ที่ริ้วขบวนจะเดินผ่าน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ยืนยันว่า จะทำให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ขณะที่ วันที่ 21 เมษายน จะเป็นการซักซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค จะมีการเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้น โดยจะไปเส้นทาง 40 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 22.00 น หากประชาชนสงสัยสามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 1197 และ www.police.go.th. ด้าน นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้เตรียมรถโดยสารทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 960 คัน ใน 27 จุด จาก 16 เส้นทาง เพื่อนำประชาชนเข้าร่วมพระราชพิธี ขณะที่พื้นที่ภายในกรุงเทพฯจะจัดรถชัตเติ้ลบัสรับส่งประชาชนใน 16 เส้นทาง ระหว่างวันที่ 2- 6 พฤษภาคม รวมทั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทยนอกจากจะมีการจัดรถบริการประชาชนจากขบวนรถปกติจะเพิ่มขบวนรถพิเศษจากนครปฐมมหาชัยอยุธยาและฉะเชิงเทรา รวมทั้ง จัดเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง ขณะเดียวกัน ได้เตรียมรถยกไว้ช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหารถเสีย