"คงชีพ"เผยเน้นย้ำฝ่ายความมั่นคงรุกเข้มป้องอุบัติเหตุสงกรานต์ ชี้คดี "เสี่ยเบนช์" แม้ศาลตีกลับข้อหาเจตนาฆ่า แต่ก็ต้องได้รับโทษสูงสุดปัดใช้ยาแรงม.44  วันที่14 เม.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ของรัฐบาลโดยเฉพาะกรณีการเมาแล้วขับว่าอย่างไรก็ตามปัญหาอุบัติเหตุส่วนใหญ่สาเหตุหลักก็มาจากการที่เมาแล้วขับขับรถเร็ว  รวมถึงขับรถจักรยานยนต์ไม่ใส่หมวกกันน็อก ซึ่งทั้งหมดนำมาสู่สาเหตุของการเสียชีวิตทั้งสิ้นดังนั้นพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลามโหมได้เน้นย้ำให้เดินหน้าตาม7 มาตราการหลักลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ของหน่วยงานความมั่นคงที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้  โดยที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ตามดำเนินการตาม7 มาตราการไปก่อนหน้านี้แล้วพร้อมได้กำชับสั่งการฝ่ายความมั่นคงและทุกส่วนราชการที่รับผิดชอบให้ประสานการทำงานร่วมกันกับจิตอาสาในแต่ละพื้นที่เพื่อเติมเต็มกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ  เมื่อถามถึงกรณีเสี่ยเบนซ์เมาแล้วขับรถชนตำรวจจนเสียชีวิตซึ่งต่อมาศาลพิจารณาแล้วไม่สามารถรับฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาและข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะนำมาใช้ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร  ได้เน้นย้ำในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายสูงสุดในโทษเมาแล้วขับกับผู้ที่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับดังนั้นในกรณีที่ไม่เข้าข่ายในเจตนาฆ่าแต่จะเป็นการบังคับใช้กฎหมายโทษสูงสุดกับคนเมาแล้วขับกรณีที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะดำเนินการในข้อหาสูงสุดคือติดคุกและไม่มีการยอมความอะไรทั้งสิ้นซึ่งถือว่าเป็นมาตราการที่รุนแรง ทั้งนี้กรณีดังกล่าวแม้ศาลจะพิจารณาว่าไม่เข้าข่ายว่าเจตนาฆ่าแต่ผู้ก่อเหตุก็จะต้องได้รับโทษสูงสุดอย่างแน่นอนหากเป็นกรณีเมาแล้วขับตามที่ตนได้กล่าวไปเบื้องต้นซึ่งตนต้องขอทำความเข้าใจว่าหากกฎหมายไม่คร่อมเรื่องของเจตนาฆ่าก็ถือว่าเป็นไปตามนั้นแต่ก็ต้องได้รับโทษสูงสุดในข้อหาเมาแล้วขับอยู่ดี อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าวันนี้คงยังไม่ถึงขั้นที่เราจะต้องใช้มาตรา44 ในการแก้ปัญหาและการแทรกแซงกระบวนทางกฎหมายหลักแต่ย้ำว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างสูงสุดอยู่แล้วของกระบวนการยุติธรรม พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการป้องกันเรื่องดังกล่าวทางหน่วยงานของภาครัฐก็ได้มีการพยามเร่งแก้ปัญหาและนำสถิติเก่ามาหาแนวทางป้องกันในอนาคตแต่ส่วนหนึ่งที่อบากฝากย้ำคือการที่ประชาชนเองก็ต้องมีจิตสำนึกในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน