คิมหันตฤดู พาผู้คนร้อนกระหายอย่างสุดประมาณเยี่ยงนี้ ก็ต้องถึงทีของเครื่องดื่มทั้งหลายประดามี ที่จะได้ออกมาดับร้อน ผ่อนกระหาย ให้ชุ่มชื่นจิตกัน ซึ่งแต่ละมุมโลก ต้องก็มีสูตรเมนูเครื่องดื่ม หลากหลายชนิดตามแต่ละพื้นที่ที่มีวัตถุดิบสำหรับการผลิตในแต่ละท้องถิ่น
เริ่มจาก “น้ำเลมอนเนด (Lemonade)” แท้ที่จริงก็คือ “น้ำมะนาว” นั่นเอง อย่างไรก็ดี เมื่อว่าถึงเครื่องดื่มเมนูนี้ ต้องบอกว่า เป็น “เครื่องดื่มยุคแรกๆ” ของมนุษย์เรา โดยมีต้นกำเนิดเมื่อกว่า 1,500 ปีมาแล้ว จากการคิดค้นของชนชาติอียิปต์โบราณ ส่วนผสมอันสืบมาแต่ครั้งโบราณนับพันปีแล้ว ก็ประกอบด้วย มะนาว น้ำ และน้ำตาล สัดส่วนของส่วนผสมอะไรมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล แต่ที่แน่ๆ จากการสำรวจคร่าวๆ พบว่า ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ชอบที่จะลิ้มรสของเครื่องดื่มเมนูนี้ โดยเฉพาะในช่วงคิมหันตฤดูที่อากาศร้อนอย่างนี้ สามารถดับกระหาย ผ่อนคลายความร้อน ได้อย่างชะงัดนัก
ตามมาด้วยเมนูเครื่องดื่ม ที่มีอายุเก่าแก่ราว 400 ปีก่อน ตามบันทึกที่ค้นพบ ได้แก่ “โมฆิโต (Mojito)” เป็นเครื่องดื่มของชาวคิวบา ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อรำลึกถึง “เซอร์ ฟรานซิส เดรค” นักเดินเรือสำรวจดินแดนชื่อดังครั้งอดีต ซึ่งได้เคยเดินทางมายังดินแดนหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนแห่งนี้ โดยเครื่องดื่มข้างต้น ก็มีส่วนผสมประกอบด้วยรัมขาว มะนาว น้ำตาล ใบมินต์ โซดา และน้ำ เพียงเท่านี้ ก็สามารถเรียกความสดชื่นให้แก่ผู้ดื่มได้อย่างชิลๆ
ต่อด้วย “ดาร์กเอ็นสตอร์ม”
เป็นเครื่องดื่มอันขึ้นชื่อของ “เบอร์มิวดา” ดินแดนบ้านใกล้เรือนเคียงของคิวบา ใกล้ทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติกด้วยกัน
ส่วนผสมของ “ดาร์กเอ็นสตอร์ม” ประกอบด้วย เบียร์ขิง ขิงสด น้ำมะนาว น้ำแข็ง และดาร์กรัม
วิธีทำ ก็นำเบียร์ขิง ขิงสด น้ำมะนาว น้ำแข็ง ปั่นกับเครื่องปั่นเข้าด้วยกัน เมื่อเทใส่แก้ว ก็เติมดาร์กรัมไว้ด้าน เป็นอันเสร็จพิธี ดื่มแก้กระหายคลายร้อนด้วยรสชาติและกลิ่นของขิงอย่างสุดซาบซ่า
ถัดมาก็เป็น “ปินาโคลาดา” ซึ่งเครื่องดื่มเมนูนี้ หลายคนเรียกว่า “น้ำมะพร้าวปั่น” ทว่า เมื่อมาพิจารณาถึงส่วนผสม ก็ต้องบอกว่า หาใช่น้ำมะพร้าวปั่นธรรมดาๆ ไม่ ประกอบด้วยมะพร้าวทั้งน้ำ ทั้งเนื้อ นม สับปะรด และรัม มีต้นกำเนิดมาจาก “โปรตุเกส” เจ้าของฉายา แดนฝอยทอง ประเทศริมฝั่งมหามุทรแอตแลนติก โดยหลายคนสะกิดมาว่า ดื่มไปแล้วสดชื่นราวกับนั่งใต้ต้นมะพร้าวริมทะเลกันอย่างไรอย่างนั้น
ติดตามมาอย่างกระชั้นชิดด้วย “ซางเกรีย (Sangria)” แห่งสเปน แดนกระทิงดุ
โดยเครื่องดื่มเมนูนี้ ถือว่ามีอายุเก่าแก่นับร้อยปีเมนูหนึ่ง
ส่วนผสมประกอบด้วยไวน์แดง ผสมน้ำส้ม น้ำผึ้ง และน้ำเชื่อม หรือไซรัป ผสมเข้าด้วยกันก่อนเติมผลไม้ตามแต่ผู้ดื่มชอบใจ ได้รสชาติกันไปอีกแบบ
ตามด้วย “ปาสติส (Pastis)” เครื่องดื่มที่คนย่านมุมอื่นๆ ของโลกได้จิบดื่มกันไม่บ่อยนัก แต่ใน “ฝรั่งเศส” เจ้าของฉายาแดน “น้ำหอม” ยกย่องให้เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประจำชาติของพวกเขาเลยทีเดียว ตลอดช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่งผสมหลักของเครื่องดื่มเมนูนี้ ก็กอปรด้วยรากชะเอม และน้ำตาล ทว่า เพียงเท่านี้ก็ช่วยดับร้อนผ่อนกระหาย เพราะสรรพคุณของรากชะเอมก็ทำให้ผู้ดื่มชุ่มคอ ชื่นใจ ได้เป็นไหนๆ แล้ว ปัจจุบันผู้ผลิตบางรายได้มีการเติมแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมลงไปด้วย นอกเหนือจากน้ำเปล่า อันเป็นต้นตำรับ
ปิดท้ายด้วย เมนูเครื่องดื่มในภูมิภาคอุษาคเนย์เรา เป็นเครื่องดื่มที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประจำชาติของอินโดนีเซีย แดนอิเหนา นั่นคือ “เอสเคลาปะมูดะ (Es Kelapa Muda)”
โดยเมนูเครื่องดื่มนี้ ก็ต้องบอกว่า ไม่ยาก เพราะประกอบด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน เนื้อมะพร้าวอ่อน ผสมไซรัปลงไป เพียงเท่านี้ก็ได้เครื่องดื่มที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สามารถลิ้มรสเพื่อดับกระหาย คลายร้อน ในยามคิมหันตฤดูอันอบอ้าว ณ ชั่วโมงนี้ได้เป็นอย่างดีแล้ว