บริษัทเวียตเจ็ท ได้ประกาศงบการเงินปี 2018หลังตรวจสอบบัญชี ระบุสามารถทำยอดทะลุเป้าที่ตั้งไว้ โดยมีรายรับรวมที่ 53,577 พันล้านดอง (ประมาณ 2,300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) และกำไรก่อนหักภาษีที่ 5,816 ดอง (ประมาณ 250 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ)ด้วยจำนวนผู้โดยสารรวม 23 ล้านคน โดยให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ 66 เส้นทางซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของเส้นทางบินทั้งหมดในเครือข่ายของเวียตเจ็ท สามารถสร้างรายรับได้มากกว่าตลาดการบินภายในประเทศเวียดนาม
ทั้งนี้เมื่อเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงต้นปี 2017 เวียตเจ็ท ได้กำหนดแผนการเติบโตระยะ 3 ปี (2017-2019) และตั้งเป้ากำไรหลังหักภาษีรวมของปี 2017 และ 2018 ไว้ที่ 7,801 พันล้านดอง ผลปรากฏว่า เวียตเจ็ททำได้เกินกว่าเป้าหมายโดยสามารถทำกำไรหลังหักภาษีได้ 10,400 พันล้านดองในเวลา 2 ปี และมีกำไรต่อหุ้น (Earnings per share - EPS) ที่ 9,850 ดอง อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 43.3% อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) อยู่ในระดับน่าดึงดูดใจที่ 11.4
อีกทั้ง เวียตเจ็ท ยังสามารถรักษาอัตราการจ่ายปันผล (Ratio of Dividend Payout) ที่ 50% ต่อปี ซึ่งมีทั้งรูปแบบหุ้นปันผลและเงินปันผล ตามที่ระบุที่ไว้เมื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเนื่องจากปี 2018 มีผลการดำเนินงานเชิงบวก ทำให้เวียตเจ็ทคาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้มากถึง 55% เพราะแม้ในสภาวการณ์ที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นกว่า 30% รายรับของเวียตเจ็ทยังสูงถึง 33,779 พันล้านดอง (ประมาณ 1,460 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) และผลกำไรของสายการบินก่อนหักภาษีอยู่ที่ 3,045 พันล้านดอง (ประมาณ 130 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 50% โดยการเติบโตในปี 2018 มาจากบริการขนส่งทางอากาศซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ขณะที่รายรับจากธุรกิจเสริมสามารถสร้างผลกำไรได้สูงที่ 8,410 พันล้านดอง (ประมาณ 362 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 53.5% จากปีที่ผ่านมา และสัดส่วนรายรับรวมในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจาก 24.5% ในปี 2017 เป็น 25.4% ในปี 2018
นอกจากนี้ ยังปรากฏตัวชี้วัดทางการเงินในเชิงบวกอีกมากมาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2018 ทรัพย์สินรวมมีมูลค่าอยู่ที่ 39,086 พันล้านดอง (ประมาณ 1,685 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 23.5% จากปีที่ผ่านมา ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 14,038 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 32.5% จากปีที่ผ่านมาCash Balance ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2018 อยู่ที่ 7,165 พันล้านดอง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) ลดลงอยู่ที่ 1.78 ในปี 2018 จาก 1.99 ในปี 2017 เช่นเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Debt per Equity Ratio) ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยลดลงไปอยู่ที่ 0.39 ในปี 2018 จาก 0.71 ในปี 2017
โดย เวียตเจ็ท เป็นผู้นำในตลาดการบินในประเทศเวียดนามทั้งในด้านจำนวนผู้โดยสารและเส้นทางการบินที่ขยายอย่างรวดเร็ว ที่ทำการบินทั้งหมด 118,923 เที่ยวบิน 105 เส้นทาง ในปี 2018 เป็นเส้นทางภายในประเทศเวียดนาม 39 เส้นทาง และ เส้นทางต่างประเทศ 66 เส้นทาง ครอบคลุมจุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา และจีน รวมถึงให้บริการการบินที่ท่าอากาศยานดูไบและโดฮาอีกด้วย ทั้งนี้กลยุทธ์การขยายเครือข่ายการบินในต่างประเทศของเวียตเจ็ทช่วยสร้างรายรับในสกุลเงินต่างประเทศผ่านการจำหน่ายบัตรโดยสาร และทำให้ได้ประโยชน์จากอัตราค่าน้ำมันที่ต่ำกว่า มีอัตราส่วนรายรับจากต่างประเทศคิดแป็น 48% ของรายรับรวมทั้งหมด อีกทั้งสายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงกว่า 88.06% ความน่าเชื่อถือด้านเทคนิคที่ 99.64% และความตรงเวลาของเที่ยวบิน (On-time Performance : OTP) ที่ 84.2%
ในปี 2018 เวียตเจ็ทได้รับมอบและเริ่มใช้งานเครื่องบิน A321neo รุ่นใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงถึง 16% และคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของเวียตเจ็ทในปีต่อ ๆ ไป โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2018 สายการบินเวียตเจ็ทมีฝูงบินที่มีอายุเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลกเพียง 2.82 ปี