สลดลูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ จ.บุรีรัมย์ หึงโหดหลังแอบเช็คโทรศัพท์เมียที่พึ่งทำงาน อบต.ได้เพียงเดือนเศษ เจอข้อความแชทไลน์กับชายอื่นเกิดระแวง คว้าปืนลูกซองที่พ่อซ่อนไว้ยิงกลางหน้าอกเมียดับคาที่ ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงเบ้าตาซ้ายทะลุกะโหลกหน้าผากเปิดดับสยองสองศพคาห้องนอน ทิ้งลูกสาว 9 ขวบไว้กับปู่ย่า พ่อเผยอยู่กันมากว่า 10 ปี ไม่เคยเห็นมีปากเสียงทะเลาะกัน ไม่คาดคิดจะก่อเหตุสลด วันที่ 6 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ชลิต สุดาจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุสามีภรรยายิงกันเสียชีวิต 2 ศพภายในบ้าน จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.สืบสกุล สรสิริ รอง ผกก. สภ.โนนดินแดง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมประจำ อ.โนนดินแดง อย่างเร่งด่วน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 160 บ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงและจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้น อยู่บริเวณหน้าเป็นจำนวนมาก เมื่อสอบถามนายขาว ทองเกียรติ และนางละออง มีลาภ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกเพชร และเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่า ผู้เสียชีวิต คือ นายองอาจ ทองเกียรติ อายุ 35 ปี เป็นลูกชายของตนเอง และอีกราย คือ น.ส.อนุสรา ชอนรัมย์ อายุ 29 ปี ลูกสะใภ้ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ อบต.ลำนางรอง ได้ประมาณเดือนเศษ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบภายห้องนอนที่เกิดเหตุ พบร่าง น.ส.อนุสรา ชอนรัมย์ ผู้เป็นภรรยา นอนหงายอยู่บนที่นอนในสภาพเลือดท่วมตัว สวมกางเกงในสีดำ และเสื้อแขนกุดสีเหลือง ตรวจสอบพบถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจ ใกล้กันพบร่างนายองอาจ ทองเกียรติ สามี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนเช่นเดียวกัน ในสภาพสวมกางเกงสีเทาขาสั้นตัวเดียวไม่สวมเสื้อ มีร่องรอยถูกยิงเข้าบริเวณเบ้าตาซ้ายทะลุกะโหลกหน้าผากเปิด เป็นที่น่าสยดสยอง ทั้งนี้ยังพบลูกซองวางอยู่บนหน้าอกของนายองอาจ ด้วย เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ยิงภรรยาเสียชีวิตก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีวิตตัวเองตายตาม นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 2 ปลอกตกอยู่บนที่นอนใกล้ศพผู้เสียชีวิตด้วย จากการสอบถามนายขาว ทองเกียรติ พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายองอาจ ได้อยู่กินกับ น.ส.อนุสรา มานานกว่า 10 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 9 ขวบ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้มีปากเสียงทะเลาะกันเลย กระทั่งลูกสะใภ้ได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่ อบต.ลำนางรอง เมื่อประมาณเดือนเศษ ก็เห็นลูกชายไปบ่นให้เพื่อนฟังในลักษณะน้อยใจ ว่าภรรยา ได้ทำงานเป็นลูกจ้าง อบต.แล้ว ส่วนตัวเองไม่ได้ทำงานอะไร เพียงมีหน้าที่ขับรถส่งแม่ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปประชุมเท่านั้น และล่าสุดก่อนเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงทั้งสองคุยกันในห้องนอนว่า ฉันเห็นเธอแชทไลน์กับใครแต่ก็ไม่ถึงขั้นทะเลาะกัน จึงคาดว่าลูกชายอาจจะน้อยใจภรรยา เพราะแอบดูโทรศัพท์ของภรรยาแล้วเห็นข้อความที่แชทไลน์กับชายอื่น ก็เป็นไปได้ ซึ่งตนกับภรรยา เสียใจมากที่ลูกคิดสั้นแบบนี้ และก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะที่ผ่านามาเคยเห็นทั้งสองทะเลาะกันเอง หลังจากเกิดเหตุสลดที่ลูกชายคิดสั้นแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ เพราะตนเองก็มีลูกชายคนเดียว ไม่คิดว่าลูกจะใช้วิธีแก้ปัญหาแบบนี้ แล้วทิ้งหลานสาววัย 9 ขวบ ให้ต้องกำพร้าเพราะเรื่องที่อาจจะคิดระแวงไปเอง