ยึดกฎหมายต้องแจ้งการครอบครองถูกต้องภายใน 90 วัน โดยจะสิ้นสุด 19 พ.ค.นี้ ภายใต้เงื่อนไข 2 คุณสมบัติ เผยยอดล่าสุดมีผู้มาแจ้งครอบครองแล้ว 906 ราย ทั้งยังมีโทรศัพท์สอบถามมาอีกกว่า 8 พันสาย ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเปิดเผยว่า จากกรณีการตรวจสอบที่ทำการของมูลนิธิแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี พบต้นกัญชา เมล็ดกัญชา และผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายปลดล็อกกัญชาเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบรับแจ้งการครอบครองกัญชาและพิจารณาอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขอชี้แจงว่า โดยเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้ผู้ครอบครองกัญชามาแจ้งการครอบครองให้ถูกต้องตามลักษณะของกัญชาที่ครอบครอง และวัตถุประสงค์การใช้ ซึ่งผู้แจ้งจะได้รับยกเว้นโทษ ทั้งนี้ ต้องแจ้งภายใน 90 วัน นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยสิ้นสุดในวันที่ 19 พ.ค.62 นอกจากนี้ ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่สามารถขออนุญาตปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชา ดังนี้ 1.กรณีการปลูก ผลิตหรือสกัดกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ ใน 5 ปีแรก หลังกฎหมายบังคับใช้ ผู้ขออนุญาตต้องเป็น หน่วยงานรัฐ เช่น มหาวิทยาลัยรัฐที่มีสอนทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลรัฐ หรือบุคคลต่อไปนี้ ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เช่น สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีการสอน/วิจัยทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ กลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สหกรณ์เกษตร วิสาหกิจชุมชน ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษา ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ขออนุญาตอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง 2. ส่วนกรณีการปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัย สามารถขออนุญาตได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเพื่อการศึกษาวิจัยไปแล้ว เช่น องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเลขาฯอย. เป็นผู้อนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การผ่อนคลายกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์และการอนุญาตมิได้ผูกขาดให้กลุ่มทุนใดเป็นการเฉพาะตามที่เป็นข่าว และไม่ได้สงวนเฉพาะสำหรับภาครัฐ แต่ทั้งภาคการเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือภาคการศึกษาสามารถปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชาได้ รวมทั้งเงื่อนไขการปลูกก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องปลูกแต่เฉพาะในโรงเรือนระบบปิดเท่านั้น ผู้ปลูกสามารถปลูกกลางแจ้งได้ แต่ต้องมีระบบควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อให้กัญชามีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และป้องกันการหลุดออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ กฎระเบียบ ใดๆ ที่กำหนดขึ้นในตัวบทกฎหมายจึงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ได้เอื้อกลุ่มทุนใหญ่แต่อย่างใด ทั้งนี้ อย.ยินดีสนับสนุนการศึกษาวิจัยและพัฒนายา รวมทั้งกรณีพืชเสพติด เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ให้ประชาชนมียาที่ดี มีประสิทธิภาพในการรักษา และไม่ปิดกั้นความก้าวหน้าทางวิชาการ ในการประชุมพิจารณาเรื่องใดๆ จะมีการเชิญนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมพิจารณาให้ความเห็นในทุกประเด็น เพื่อให้ข้อตัดสินในการดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม เป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาที่ อย. 906 ราย โดยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 11 ราย และผู้ป่วย 895 ราย สำหรับต่างจังหวัดมีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชา เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 5 ราย ผู้ป่วย 442 ราย และบุคคลอื่น ๆ ที่นอกเหนือจาก 2 กลุ่มข้างต้น มีมาแจ้งเพียงรายเดียว รวมทั้งมีผู้สอบถามเข้ามาที่ อย. ยังช่องทางสายด่วน อย.1556 จำนวน 8,258 ราย หมายเลขโทรศัพท์กองควบคุมวัตถุเสพติด อย. 40 ราย และที่ Counter Service 4 ราย