กรมชลฯ ปิดตำนานม็อบฝายราษีไศล กั้นลำน้ำมูล ท่วมที่ทำกินชาวบ้านจ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด เดือดร้อนยาวนานเกือบ 40 ปี เร่งเยียวยาเกษตรกรกลุ่มสุดท้าย 599 ล้านบาท รวมรัฐควักจ่ายค่าเสียหายกว่า2.5พันล้านบาท เมื่อวันที่ 10 เม.ย.62 นายมนัส กำเนิดมณี รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จาก ครม. มีมติ จ่ายค่าชดเชยวงเงิน 599ล้านบาท ให้เกษตรกรหลังจากได้รับผลกระทบจากก่อสร้างฝายราษีไศล มาเกือบ40ปี โดยกระทรวงพลังงาน ก่อสร้างเมื่อปี2532 -35 เริ่มเก็บน้ำในลำน้ำมูล ทำให้เกิดปัญหาน้ำเข้าท่วมที่ดินทำกินของชาวบ้าน ที่ผ่านมาได้เข้ามาก่อม็อบประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือมาตลอด และเมื่อปี2545มีการโอนภารกิจของกระทรวงพลังงาน มาให้กรมชลประทาน ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านมาต่อเนื่อง “เมื่อปี 35 ฝายราษีไศลเริ่มเก็บน้ำในลำมูล ส่งผลระดับน้ำท่วมตลิ่ง ชาวบ้านเดือดร้อน และโอนภารกิจมาให้กรมชล แก้ปัญหาจากปี45 ขณะนี้สรุปการชดเชยค่าเสียหายล็อตสุดท้ายที่ยังจ่ายค่าชดเชยไม่ครบในพื้นที่ 1.8 หมื่นไร่ จากนี้กรมชลประทาน จะไปรังวัดพิสูจน์สิทธิการครอบครองเกษตรกรทำกินจริงในพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราษฎรได้รับผลกระทบจากฝายราศีไศล ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯเป็นประธาน”รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว จากผลกระทบการสร้างฝายราษีไศล ทั้งหมดจ่ายชดเชยไปแล้ว 1.9พันล้านบาท โดยครม.นี้ได้พิจารณาช่วยเหลือกลุ่มสุดท้าย 599 ล้านบาท ซึ่งชาวบ้านดีใจมากได้เดินทางมาขอบคุณกรมชลฯ จากเดิมอาจแก้ได้ล่าช้าเพราะไม่มีแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ในปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าได้นำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ มาแปรพื้นที่ สามารถรู้พื้นที่ ได้ทั้งหมด ตรงไหนหัวคันนาใคร ส่วนใดพื้นที่ทับซ้อน สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเกษตรกรทำประโยชน์จริง แล้วมาพิสูจน์สิทธิการทำกิน เป็นเกษตรกรตัวจริงทั้งหมด จากพื้นที่ชาวบ้านกว่า9 หมื่นไร่ที่โดนน้ำท่วม โดยจ่ายไปแล้ว 6หมื่นกว่าไร่ ซึ่งวันนี้ฝ่ายราชการแก้ปัญหาได้ชาวบ้านพึ่งพอใจ ยืนยันปัญหาฝายราศีไศลจบหมดแน่นอนในสองปีนี้ ทั้งนี้ จ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจ่ายในอัตราไร่ละ 32,000 บาท ซึ่งกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบสิทธิของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถจ่ายเงินค่าชดเชยได้มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี