สงกรานต์ปีนี้ใครกลับบ้านเส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด กับ ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หรือ เอสโซ่ พาร์ค บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ต้องแวะพักระหว่างทาง
โดยภายใน เอสโซ่ พาร์ค ได้ปฎิวัติปั๊มน้ำมันธรรมดา ให้กลายเป็นจุดพักระหว่างทางที่ห้ามพลาด ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ทั้งการออกแบบภายในตัวอาคารในรูปแบบ เรือนไทยคุ้มขุนช้าง ซึ่ง ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก จะมี ปั้นลมในรูปแบบโค้งๆ ที่มักพบเห็นจากงานเรือนไทยเครื่องสับ ถูกยกมาให้ลดความแข็งของหลังคากันสาดของอาคารร้านค้า
อีกทั้ง ตัวอาคาร ยังเป็นอิฐดินเผาที่มีให้เห็นในสถาปัตยกรรมไทยโบราณในยุคเดียวกัน และเป็นเรื่องราวสอดคล้องกับอาคารร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่อยู่ ด้านหน้า เช่นเดียวกับการตกแต่งสวนที่เลือกใช้พันธุ์ไม้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกาพย์กลอนบรรยายพันธุ์ไม้ในเรื่องขุนช้างขุนแผนเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านี้ ปั๊มแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งใน แฟล็กชิฟของเอสโซ่ ที่ร่วมมือกับสตาร์บัคส์ ซึ่งเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมัน โดยร้านโดดเด่นด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย ตัวอาคารสร้างจากวัสดุที่มีในยุคอดีตอย่าง อิฐดินเผา มีการนำการย่อมุม หนึ่งในภูมิปัญญาของสถาปัตยกรรมไทย มาลดทอนความแข็งของอาคาร ภายนอกมีการฉาบผิวเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยแบบงานเครื่องก่อ ด้วยวัสดุที่มีพื้นผิวคล้ายวัสดุดั่งเดิม อย่างปูนตำ พร้อมทั้งตกแต่งอาคารด้วยระแนงที่มีที่มาของลายมาจากเครื่องแขวน เกิดเงาตกกระทบอาคารในแต่ละช่วงเวลาที่ไม่ซ้ำกัน มีการเจาะช่องหน้าต่างล้อกับเงาที่เกิดขึ้น การเปลี่ยนหน้าที่ของกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาโบราณมาเรียงซ้อนกัน ตกแต่งผนัง
นอกจากนี้ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ยังประกอบไปร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ของฝากให้เลือกช้อปมากมาย ทั้งร้านเคเอฟซี มินิบิ๊กซี เพลินพุง ซาลาเปาวราภรณ์ นมหนองโพ ไท้เฮียง บีควิก เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ ยังตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม ตั้งแต่ที่จอดรถสำหรับบิ๊กไบค์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์คนรุ่นใหม่ ที่จอดรถสำหรับคนพิการ บริการห้องน้ำสะอาดสำหรับทุกผู้ทุกวัย รวมไปถึงที่เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กทารกอีกด้วย
อีกทั้งมีจุดถ่ายภาพ รูปปั้นฝูงความไทย และภาพวาดสไตล์ไทยควายเล่นน้ำกับเด็กน้อย ไก่ชนไทย และปลากัดไทย ให้ถ่ายรูปเล่นเป็น จุดเช็คอิน เป็นที่ระลึกอีกด้วย พิเศษสุดโปรโมชั่นฉลองเปิดให้บริการใหม่สามารถนำแต้มเอสโซ่ สมายล์ 300 แต้ม (จากปกติ 500 แต้ม) แลก อี-คูปอง สตาร์บัคส์ มูลค่า100 บาท หมดเขตแลกวันที่ 30 เมษายนนี้
อีกทั้ง ตัวอาคาร ยังเป็นอิฐดินเผาที่มีให้เห็นในสถาปัตยกรรมไทยโบราณในยุคเดียวกัน และเป็นเรื่องราวสอดคล้องกับอาคารร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่อยู่ ด้านหน้า เช่นเดียวกับการตกแต่งสวนที่เลือกใช้พันธุ์ไม้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกาพย์กลอนบรรยายพันธุ์ไม้ในเรื่องขุนช้างขุนแผนเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านี้ ปั๊มแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งใน แฟล็กชิฟของเอสโซ่ ที่ร่วมมือกับสตาร์บัคส์ ซึ่งเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมัน โดยร้านโดดเด่นด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย ตัวอาคารสร้างจากวัสดุที่มีในยุคอดีตอย่าง อิฐดินเผา มีการนำการย่อมุม หนึ่งในภูมิปัญญาของสถาปัตยกรรมไทย มาลดทอนความแข็งของอาคาร ภายนอกมีการฉาบผิวเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยแบบงานเครื่องก่อ ด้วยวัสดุที่มีพื้นผิวคล้ายวัสดุดั่งเดิม อย่างปูนตำ พร้อมทั้งตกแต่งอาคารด้วยระแนงที่มีที่มาของลายมาจากเครื่องแขวน เกิดเงาตกกระทบอาคารในแต่ละช่วงเวลาที่ไม่ซ้ำกัน มีการเจาะช่องหน้าต่างล้อกับเงาที่เกิดขึ้น การเปลี่ยนหน้าที่ของกระเบื้องมุงหลังคาดินเผาโบราณมาเรียงซ้อนกัน ตกแต่งผนัง
นอกจากนี้ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ยังประกอบไปร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ของฝากให้เลือกช้อปมากมาย ทั้งร้านเคเอฟซี มินิบิ๊กซี เพลินพุง ซาลาเปาวราภรณ์ นมหนองโพ ไท้เฮียง บีควิก เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ ยังตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม ตั้งแต่ที่จอดรถสำหรับบิ๊กไบค์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์คนรุ่นใหม่ ที่จอดรถสำหรับคนพิการ บริการห้องน้ำสะอาดสำหรับทุกผู้ทุกวัย รวมไปถึงที่เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กทารกอีกด้วย
อีกทั้งมีจุดถ่ายภาพ รูปปั้นฝูงความไทย และภาพวาดสไตล์ไทยควายเล่นน้ำกับเด็กน้อย ไก่ชนไทย และปลากัดไทย ให้ถ่ายรูปเล่นเป็น จุดเช็คอิน เป็นที่ระลึกอีกด้วย พิเศษสุดโปรโมชั่นฉลองเปิดให้บริการใหม่สามารถนำแต้มเอสโซ่ สมายล์ 300 แต้ม (จากปกติ 500 แต้ม) แลก อี-คูปอง สตาร์บัคส์ มูลค่า100 บาท หมดเขตแลกวันที่ 30 เมษายนนี้